เชียงราย - พายุโซนร้อนวีเซนเตเริ่มพ่นพิษแล้ว หลังทำฝนตกต่อเนื่องหลายพื้นที่ ส่งผลดินสไลด์ทับถนนบนดอยแม่ฟ้าหลวงจนรถเล็กวิ่งผ่านไม่ได้ แถมมีดินถล่มทับบ้านที่กำลังสร้างใหม่ของชาวบ้านเสียหาย 1 หลัง ขณะที่ ปภ.เร่งประสานเครือข่ายทั้ง 18 อำเภอทั่วจังหวัดเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนหากเกิดเหตุน้ำป่า-โคลนถล่ม เตือน 8 อำเภอเสี่ยงหนัก
วันนี้ (24 ก.ค.) ผลจากพายุโซนร้อนวีเซนเตที่พัดผ่านพื้นที่ภาคเหนือ ได้ทำให้สภาพอากาศทั่วไปครึ้มฟ้าครึ้มฝนตลอดทั้งวัน และมีฝนตกลงมาในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบว่าที่พื้นที่ป่าเขาสูงชันของ ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง ชายแดนไทย-พม่า เริ่มเกิดปัญหาดินสไลด์ลงทับถนน และบ้านเรือนของประชาชนแล้ว โดยผลจากฝนที่ตกลงมาได้ทำให้ดินข้างถนนสไลด์ลงทับถนนเขตหมู่บ้านแสนเมืองโก ต.เทอดไทย จนรถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ แต่รถยนต์ยังคงขับผ่านไปมาได้อยู่
นายเตชินท์ ติยะไพศาล นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทอดไทย กล่าวว่า ถนนพื้นที่หมู่บ้านแสนเมืองโกมักเกิดการสไลด์ของดินเข้าทับเป็นประจำทุกปี เพราะพื้นที่สูงชันไปตามไหล่เขา
นอกจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วยังพบว่าฝนตกหนักดังกล่าวทำให้มีบ้านเรือนของชาวบ้านหมู่บ้านเทอดไทย ม.1 ต.เทอดไทย จำนวน 1 หลัง ถูกดินสไลด์ลงมาทับจนเสียหายทั้งหลัง โดยเป็นบ้านขนาด 12 เสาที่เพิ่งสร้างใหม่ แต่ดินได้ถล่มเข้าทับไปเสียครึ่งหนึ่ง หรือ 6 เสา จนต้องรื้อและสร้างใหม่แน่นอน แต่โชคดีไม่มีผู้ใดในบ้านได้รับอันตรายเพราะช่วงเกิดเหตุไม่มีคนอยู่ในบ้าน
นายเตชินท์กล่าวว่า สาเหตุของบ้านเรือนถูกดินทับดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะเจ้าของบ้านไปสร้างอยู่ใต้ถนนที่สูงชันและอยู่ในจุดที่มีความเสี่ยง โดยที่ผ่านมาชาวบ้านที่จะสร้างบ้านบางรายไม่ได้ไปแจ้งหรือขออนุญาตต่อ อบต.เทอดไทย เพราะในพื้นที่มีหลายหน่วยงานไปประจำอยู่ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ป่าไม้ ฯลฯ ดังนั้นเมื่อชาวบ้านจะสร้างบ้านก็มักจะไปขอหน่วยงานอื่น แต่เมื่อเกิดปัญหาดินถล่มเสียหายก็มักจะของบประมาณการช่วยเหลือจาก อบต.จนได้
“ล่าสุดทาง อบต.เทอดไทยได้จัดสรรงบประมาณช่วยเหลือเพื่อสร้างบ้านหลังใหม่แล้วจำนวน 30,000 บาท ส่วนในระยะยาวได้เคยเสนอต่อทางจังหวัด และในการประชุมร่วมกับอำเภอหลายครั้งก็ได้แจ้งถึงปัญหานี้ เพราะชาวบ้านบางส่วนมักสร้างบ้านเรือนโดยไม่ดูพื้นที่ที่ปลอดภัยหรือไปขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้ดูความปลอดภัยของสถานที่ก่อสร้างโดยตรง เมื่อได้ข้อสรุปจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งหมดแล้วคงจะมีการประชุมชาวบ้าน เพื่อแจ้งให้ทราบว่าก่อนการสร้างบ้านใหม่ควรจะปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน คือแจ้งทางท้องถิ่นเพื่อให้ไปดูความปลอดภัยของบ้านเรือนไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซากแบบนี้อีกต่อไป” นายเตชินท์กล่าว
ด้านนายเชษฐา โมสิกรัตน์ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงราย แจ้งถึงเครือข่ายทั้ง 18 อำเภอให้เตรียมรับมือฝนตกหนักตามประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา โดยให้มิสเตอร์เตือนภัยสังเกตระดับน้ำทุกสายตลอด 24 ชั่วโมง และพร้อมประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่ได้ทันที
โดยอำเภอที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่จัน อ.แม่สาย อ.เมืองเชียงราย (ต.ห้วยชมภู ต.แม่ยาว) อ.เชียงของ อ.เวียงแก่น อ.พญาเม็งราย อ.เชียงแสน และพื้นที่ที่อยู่ใกล้ภูเขาและแม่น้ำสายหลัก นอกจากนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เตรียมเครื่องมือการช่วยเหลือประชาชนให้พร้อม ทั้งเรือท้องแบน กำลังพลในการขนย้ายทรัพย์สินและประชาชน และหากมีน้ำท่วมหรือดินถล่ม และการช่วยเหลือเกินกำลังพล ก็สามารถร้องขอมาทางจังหวัด เพื่อจัดกำลังพลชุดใหญ่เพื่อเข้าช่วยเหลือต่อไปตามขั้นตอน