ชาวแหลมฉบัง-บางละมุงรอประชุมใหญ่ ชี้ชัดปัญหาท่าเรือแหลมฉบัง

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านแหลมฉบัง-บางละมุง รอการประชุมใหญ่ ชี้ชัดปัญหาท่าเรือแหลมฉบัง 26 ก.ค.นี้ เพื่อกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหว หลังประชุมกลุ่มย่อยแล้วไร้ประโยชน์

วันนี้ (17 ก.ค.) ที่ห้องประชุม 1 อาคารบริหารท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายสนธิ คชวัฒน์ ประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาชุมชน และสังคมรอบท่าเรือแหลมฉบัง ครั้งที่ 5/2555 โดยมีคณะอนุกรรมการ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่การท่าเรือแหลมฉบัง, ตัวแทนชุมชนพื้นที่ตำบลแหลมฉบัง, ตัวแทนชุมชนพื้นที่ตำบลบางละมุง, ตัวแทนชุมชนพื้นที่ตำบลนาเกลือ, ตัวแทนชุมชนพื้นที่ตะเคียนเตี้ย พร้อมหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้

สำหรับปัญหาที่มีการพูดคุยในครั้งนี้ เน้นการให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่แหลมฉบัง และบางละมุง ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 1 และเฟส 2 ซึ่งได้รับความเดือดร้อนในเรื่องปัญหาไม่มีน้ำประปา กระแสไฟฟ้าใช้ หรือมีใช้ราคาสูงกว่าปกติมาก จึงต้องการให้การท่าเรือแหลมฉบังช่วยเหลือ นอกจากนั้น ปัญหาวัด และโรงเรียนก็ไม่สามารถนำงบประมาณมาพัฒนา หรือจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาได้ จึงต้องการให้การท่าเรือเข้ามาช่วยเหลือโดยเร่งด่วน

นายรังสรรค์ สมบูรณ์ ตัวแทนชาวบ้านบางละมุง กล่าวว่า การประชุมในแต่ละครั้งไม่มีอะไรคืบหน้าเท่าที่ควร โดยมีการพูดซ้ำซาก และไม่เห็นมีอะไรคืบหน้าไปในแนวทางที่ดีขึ้น เพราะปัญหาเกิดขึ้นมานานแล้ว หากการท่าเรือแหลมฉบังมีความจริงใจที่จะให้การช่วยเหลือชาวบ้านจริง ก็ควรมีแนวทางที่ชัดเจน และเร่งด่วนมากกว่านี้ แต่การประชุมดังกล่าวมานานกว่าครึ่งปีแล้ว ชาวบ้านก็ยังได้รับความเดือดร้อน และยังไม่มีโครงการใดๆ เกิดขึ้น หลังชาวบ้านเสนอปัญหา และแนวทางต่างๆ ไป

“ผมจะไม่เข้าร่วมประชุมกลุ่มย่อยเช่นนี้อีกต่อไป เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย แต่กลับทำให้เสียเวลาของชาวบ้านที่ต้องเดินทางมาร่วมประชุมเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแก้ไข ปัญหาที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน โดยผมจะขอประชุมใหญ่ ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ ที่เทศบาลตำบลบางละมุง อีกครั้ง หากไม่มีแนวทางที่ดีขึ้นก็จะเลิกยุ่งเกี่ยวกับการท่าเรือแหลมฉบังทันที” นายรังสรรค์กล่าว

นายรังสรรค์ กล่าวต่อว่า หลังจากประชุมในวันที่ 26 ก.ค.นี้ เสร็จเรียบร้อย และไม่มีอะไรดีขึ้น ตนจะวางรูปแบบ และแนวทางในการต่อต้านคัดค้านโครงการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในท่าเรือแหลมฉบัง โดยเฉพาะโครงการขยายการท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ที่มีโครงการจะเกิดขึ้นนั้น ตนขอยืนยันว่า จะคัดค้านให้ถึงที่สุด และจะไม่ให้เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด เพราะสร้างความเสียหายต่ออาชีพกลุ่มประมง และพี่น้องที่มีบ้านเรือนที่อยู่บริเวณดังกล่าว