เชียงราย - เตรียมรับตลาดท่องเที่ยวเออีซีบวกจีนบูม หมอชื่อดังเมืองเชียงรายทุ่มทุนนับ 100 ล้านขยายธุรกิจโรงแรม พร้อมเปิดห้องจัดคอร์สสอนภาษากลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนให้บุคลากรในสังกัด เพิ่มศักยภาพดึงดูดลูกค้าในอนาคต
ท่ามกลางกระแสเออีซีที่กำลังบูมขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ภาคธุรกิจท้องถิ่นของเชียงรายที่ได้ชื่อว่า เป็นหนึ่งในเมืองหน้าด่านที่สำคัญของภาคเหนือกับเพื่อนบ้าน เริ่มเคลื่อนไหวรองรับธุรกรรมที่จะเกิดขึ้นตามมาเช่นกัน โดยล่าสุดนายแพทย์วัชระ เตชะธีราวัฒน์ แพทย์ประจำโรงพยาบาล ได้หันมาลงทุนขยายกิจการโรงแรม ในนามบริษัทลักษวรรณ จำกัด เปิดโรงแรมใหม่ “ลักษวรรณ รีสอร์ท เชียงราย” ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย
นายแพทย์วัชระบอกว่า เดิมประกอบวิชาชีพแพทย์ และจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์เพียงอย่างเดียว ต่อมาจึงได้ขยายเป็นธุรกิจที่พักให้ตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ชุมชนสันโค้ง อ.เมือง จ.เชียงราย ชื่อโรงแรมมณีอินทร์ มีขนาดประมาณ 30 ห้อง กระทั่งเห็นว่ากิจการน่าจะมีอนาคต และเชียงรายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับกลุ่มเออีซีในอนาคต ดังนั้นจึงได้ขยายไปเปิดโรงแรมลักษวรรณ รีสอร์ท เชียงราย บนเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่เศษ ในวงเงินลงทุนรวมราว 100 ล้านบาท โดยช่วงแรกๆ มีเพียง 36 ห้อง ปัจจุบันได้เพิ่มเป็น 99 ห้องแล้ว
นายแพทย์วัชระกล่าวว่า ในอนาคตแม้ไทยจะเข้าสู่เออีซีผู้ประกอบการก็ต้องปรับตัว เพราะสถานการณ์การท่องเที่ยวของเชียงรายมักจะมีผู้เข้าพักมากช่วงฤดูหนาวหรือไฮซีซัน ปีละ 3-4 เดือน ส่วนช่วงเวลาที่เหลือจะซบเซา ดังนั้นจึงได้มีการปรับตัวและพัฒนาองค์กรยกใหญ่เพื่อพึ่งพาตัวเองให้ได้ โดยปัจจุบันหันมาประสานตลาดด้านการจัดงานสัมมนา โดยจัดห้องสัมมนาเอาไว้ 3 ห้องใหญ่ มีศักยภาพรองรับผู้เข้าร่วมได้จำนวน 600 คน
รวมทั้งเพิ่มศักยภาพของบุคลากรองค์กรซึ่งเป็นพนักงานในจำนวน 42 คน และสามารถเรียกใช้พนักงานภายนอกเพิ่มเติมได้ แต่ละคนมีการฝึกให้ใช้ภาษาที่เกี่ยวข้องคือ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาในเออีซี เช่น ภาษาพม่า ฯลฯ เป็นคอร์ดสั้นๆ เพื่อให้สามารถนำไปใช้งานได้ทันที
สำหรับช่วงโลว์ซีซันก็หันไปให้บริการภาครัฐและเอกชนในการใช้บริการห้องประชุมสัมมนามากขึ้น เพื่อชดเชยการเข้าพักของนักท่องเที่ยวที่เบาบางลงได้เป็นอย่างดี โดยโรงแรมใช้วิธีให้ผู้จัดสัมมนาแจ้งงบประมาณเพื่อที่ทางโรงแรมจะได้สามารถจัดการประชุมให้ได้อย่างเหมาะสม ทำให้ผู้จัดสัมมนามีทางเลือกได้หลากหลาย
ขณะที่ห้องพักก็จัดให้พักในราคาประหยัด 750-1,800 บาท ซึ่งราคา 750 บาทต่อห้องต่อคืนนั้นถือเป็นการร่วมเฉลิมฉลองเมืองเชียงรายที่มีอายุครบ 750 ปีด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงโลว์ซีซันนี้พบว่าห้องพักทั่วภาคเหนือมียอดเฉลี่ยเข้าพักไม่ถึง 50% ส่วนของโรงแรมเราก็มีอัตราเฉลี่ยราวๆ 40% แต่เมื่อถึงไฮซีซันก็คาดว่าจะอยู่ในอัตราใกล้เคียงกับปีที่ผ่านๆ มาคือประมาณ 70% ขึ้นไป
“คาดว่าเมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558 จะมีผู้คนเดินทางมาเชียงรายมากขึ้น เพราะเรามีด่านพรมแดนหลายแห่ง รวมทั้งยังเป็นจุดเชื่อมอาเซียนบวกจีนอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนลงมามากอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยอยากให้มีการจัดระเบียบการเปิดกิจการห้องพักให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้ธุรกิจประเภทนี้ไปอยู่รวมกันที่จุดใดจุดหนึ่งมากเกินไปจนต้องตัดราคากันเอง เหมือนกับต่างประเทศเคยเห็นทำกันมาแล้ว ไม่เช่นนั้นจะเกิดการแออัดในอนาคต” นายแพทย์วัชระ กล่าว