ศูนย์ข่าวศรีราชา - เกิดเหตุรถยนต์กระบะ จ่าทหารเรือยางระเบิดพุ่งชนที่พักผู้โดยสารพังพินาศ ผู้คนที่อยู่ในวินรถ จยย.ติดกับศาลาที่พักผู้โดยสารวิ่งหนีเอาตัวรอดกันวุ่น ชนิดรอดตายกันหวุดวิด
วันนี้ (17 ก.ค.55) ร.ต.ท.สายใจ คำจุลลา ร้อยเวรสอบสวน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์กระบะเสียหลักพุ่งชนศาลาที่พักผู้โดยสาร ริมถนนสุขุมวิท กม.170 เส้นทางพัทยา-สัตหีบ บริเวณหน้าปากทางเข้าซอยวัดเขาคันธมาทน์ ม.9 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุมีชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูเหตุการณ์พบรถยนต์กระบะ อีซูซุ ดีแม็ก แคป 2 ประตู สีดำ ทะเบียน ผข - 9938 ขอนแก่น เหินขึ้นไปอยู่ในศาลาที่พักผู้โดยสาร สภาพด้านหน้าพังยับเยิน และยาหน้าซ้ายระเบิด โดยมี จ่าเอก ชาตรี รักษาภักดี อายุ 36 ปี สังกัด ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ เป็นคนขับ ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศาลาที่พักผู้โดยสารได้รับความเสียหาย เสาหักโค่น 2 ต้น หลักคากระเบื้องถล่มพังพินาศ
นอกจากนี้ ยังพบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า นูโว สีแดง ทะเบียน ขพม - 786 ระยอง และรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สมาย สีดำ-เขียว ทะเบียน ขตย - 944 ชลบุรี ถูกชนได้รับความเสียหาย โชคดีที่ในเหตุการณ์ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว
สอบถามนายทินกร เทียบแก้ว อายุ 45 ปี วินมอเตอร์ไซด์รับจ้างเบอร์ 7 คิววัดเขาคันธมาทน์ ที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ขณะที่ตนและคนอื่นๆ รวม 5 คนคือนายไพรัตน์ กาญจนา อายุ 41 ปี วินเบอร์ 4 นายเกรียงศักดิ์ อ่อนศรี อายุ 29 ปี วินเบอร์ 6 นายสมเกียรติ อ่อนศรี อายุ 55 ปี วินเบอร์ 3 และนายอนุชิต หมื่นสมบูรณ์พงศ์ อายุ 48 ปี วินเบอร์ 2 กำลังจอดรถรอลูกค้าอยู่ในวินติดกับศาลาที่พักผู้โดยสาร ได้เห็นรถคันดังกล่าววิ่งมุ่งหน้ามาจากทางพัทยา ไปทางตลาดสัตหีบด้วยความเร็ว
เมื่อถึงที่เกิดเหตุยางหน้าซ้ายเกิดระเบิดจนเกิดเสียงดังสนั่น คนขับได้พยายามเหยียบเบรกให้รถหยุด แต่รถเสียหลักส่ายไปสายมา พุ่งมาทางศาลาที่พักผู้โดยสาร เมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงได้พากันวิ่งหนีตายกันอย่างอลหม่าน ทันใดนั้นรถได้พุ่งเข้าชนรถจักรยานยนต์ของวินที่จอดอยู่ได้รับความเสียหาย 2 คัน ก่อนจะเหินพุ่งชนศาลาที่พักผู้โดยสารจนพังพินาศ นับเป็นความโชคดีที่ไม่มีใครอยู่ในศาลาและทุกคนในวินหนีตายเอาชีวิตรอดมาได้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ในเหตุการณ์ครั้งนี้
ด้าน ร.ต.ท.สายใจ คำจุลลา ร้อยเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า หลังรับแจ้งได้ถ่ายภาพที่เกิดเหตุทำบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเชิญตัวคนขับไปสอบปากคำเพิ่มเติมยัง สภ.สัตหีบ พร้อมตั้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่น และของทางราชการได้รับความเสียหาย
วันนี้ (17 ก.ค.55) ร.ต.ท.สายใจ คำจุลลา ร้อยเวรสอบสวน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์กระบะเสียหลักพุ่งชนศาลาที่พักผู้โดยสาร ริมถนนสุขุมวิท กม.170 เส้นทางพัทยา-สัตหีบ บริเวณหน้าปากทางเข้าซอยวัดเขาคันธมาทน์ ม.9 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุมีชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูเหตุการณ์พบรถยนต์กระบะ อีซูซุ ดีแม็ก แคป 2 ประตู สีดำ ทะเบียน ผข - 9938 ขอนแก่น เหินขึ้นไปอยู่ในศาลาที่พักผู้โดยสาร สภาพด้านหน้าพังยับเยิน และยาหน้าซ้ายระเบิด โดยมี จ่าเอก ชาตรี รักษาภักดี อายุ 36 ปี สังกัด ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ เป็นคนขับ ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศาลาที่พักผู้โดยสารได้รับความเสียหาย เสาหักโค่น 2 ต้น หลักคากระเบื้องถล่มพังพินาศ
นอกจากนี้ ยังพบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า นูโว สีแดง ทะเบียน ขพม - 786 ระยอง และรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สมาย สีดำ-เขียว ทะเบียน ขตย - 944 ชลบุรี ถูกชนได้รับความเสียหาย โชคดีที่ในเหตุการณ์ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว
สอบถามนายทินกร เทียบแก้ว อายุ 45 ปี วินมอเตอร์ไซด์รับจ้างเบอร์ 7 คิววัดเขาคันธมาทน์ ที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ขณะที่ตนและคนอื่นๆ รวม 5 คนคือนายไพรัตน์ กาญจนา อายุ 41 ปี วินเบอร์ 4 นายเกรียงศักดิ์ อ่อนศรี อายุ 29 ปี วินเบอร์ 6 นายสมเกียรติ อ่อนศรี อายุ 55 ปี วินเบอร์ 3 และนายอนุชิต หมื่นสมบูรณ์พงศ์ อายุ 48 ปี วินเบอร์ 2 กำลังจอดรถรอลูกค้าอยู่ในวินติดกับศาลาที่พักผู้โดยสาร ได้เห็นรถคันดังกล่าววิ่งมุ่งหน้ามาจากทางพัทยา ไปทางตลาดสัตหีบด้วยความเร็ว
เมื่อถึงที่เกิดเหตุยางหน้าซ้ายเกิดระเบิดจนเกิดเสียงดังสนั่น คนขับได้พยายามเหยียบเบรกให้รถหยุด แต่รถเสียหลักส่ายไปสายมา พุ่งมาทางศาลาที่พักผู้โดยสาร เมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงได้พากันวิ่งหนีตายกันอย่างอลหม่าน ทันใดนั้นรถได้พุ่งเข้าชนรถจักรยานยนต์ของวินที่จอดอยู่ได้รับความเสียหาย 2 คัน ก่อนจะเหินพุ่งชนศาลาที่พักผู้โดยสารจนพังพินาศ นับเป็นความโชคดีที่ไม่มีใครอยู่ในศาลาและทุกคนในวินหนีตายเอาชีวิตรอดมาได้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ในเหตุการณ์ครั้งนี้
ด้าน ร.ต.ท.สายใจ คำจุลลา ร้อยเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า หลังรับแจ้งได้ถ่ายภาพที่เกิดเหตุทำบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเชิญตัวคนขับไปสอบปากคำเพิ่มเติมยัง สภ.สัตหีบ พร้อมตั้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่น และของทางราชการได้รับความเสียหาย