พระนครศรีอยุธยา - รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา เรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยาทั้ง 9 จังหวัด พร้อมสั่งกำชับผู้ว่าฯ ทั้ง 9 จังหวัด เร่งขุดลอกคูคลอง และสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง
วันนี้ (13 ก.ค.) ที่ห้องประชุม ศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เรียกผู้ว่าราชการจังหวัดที่อยู่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยาเร่งดำเนินการขุดลอกคูคลอง และสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และรองรับฤดูน้ำหลาก
นายปรีชา กล่าวว่า การเดินทางมาประชุมครั้งนี้ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมทรัพยากรน้ำ กรมที่ดิน กรมเจ้าท่า และผู้ว่าราชการจังหวัด 9 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง อุทัยธานี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และพระนครศรีอยุธยา เพื่อกำชับให้ดำเนินการตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายโดยเร็ว เบื้องต้น ได้รับรายงานว่า กรมโยธาธิการและผังเมืองได้ดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาป้องกันตลิ่งพัง และป้องกันน้ำท่วมในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และสิงห์บุรี รวมงบประมาณกว่า 12,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่มีที่พักอาศัย และทรัพย์สินบริเวณตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา และป่าสักทรุดตัว โดยเฉพาะป้องกันน้ำในแม่น้ำในฤดูน้ำหลาก
พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังมอบหมายให้ 4 จังหวัด คือ นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี และอ่างทอง ขุดลอกลำน้ำเจ้าพระยาที่มีบางจุดตื้นเขินให้กลับสู่สภาพเดิมด้วย อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้ทั้ง 9 จังหวัดเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคมนี้
สำหรับในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า ในพื้นที่มีจุดที่มีดินพังทลาย และทรุดตัว 40-50 จุด ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดฯ ออกสำรวจทุกพื้นที่ พร้อมวางแผนสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพังแล้ว
วันนี้ (13 ก.ค.) ที่ห้องประชุม ศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เรียกผู้ว่าราชการจังหวัดที่อยู่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยาเร่งดำเนินการขุดลอกคูคลอง และสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และรองรับฤดูน้ำหลาก
นายปรีชา กล่าวว่า การเดินทางมาประชุมครั้งนี้ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมทรัพยากรน้ำ กรมที่ดิน กรมเจ้าท่า และผู้ว่าราชการจังหวัด 9 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง อุทัยธานี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และพระนครศรีอยุธยา เพื่อกำชับให้ดำเนินการตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายโดยเร็ว เบื้องต้น ได้รับรายงานว่า กรมโยธาธิการและผังเมืองได้ดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาป้องกันตลิ่งพัง และป้องกันน้ำท่วมในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และสิงห์บุรี รวมงบประมาณกว่า 12,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่มีที่พักอาศัย และทรัพย์สินบริเวณตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา และป่าสักทรุดตัว โดยเฉพาะป้องกันน้ำในแม่น้ำในฤดูน้ำหลาก
พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังมอบหมายให้ 4 จังหวัด คือ นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี และอ่างทอง ขุดลอกลำน้ำเจ้าพระยาที่มีบางจุดตื้นเขินให้กลับสู่สภาพเดิมด้วย อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้ทั้ง 9 จังหวัดเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคมนี้
สำหรับในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า ในพื้นที่มีจุดที่มีดินพังทลาย และทรุดตัว 40-50 จุด ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดฯ ออกสำรวจทุกพื้นที่ พร้อมวางแผนสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพังแล้ว