พบโรงเรียนศรีสะเกษมี นร.4 คน น้อยที่สุดในประเทศ

ศรีสะเกษ - ผู้ปกครองติดค่านิยมนำลูกหลานแห่เข้าศึกษาโรงเรียนใหญ่ ทำโรงเรียนบ้านตลาดพัฒนา อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ มีนักเรียนอยู่แค่ 4 คน น้อยที่สุดในประเทศไทย และมีครูสอน 4 คน ด้าน สพป.ศรีสะเกษ เตรียมยุบทิ้งย้ายนักเรียนไปเรียนร่วมกับโรงเรียนใกล้เคียง

วันนี้ ( 12 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ศรีสะเกษว่า สืบเนื่องมาจากประชาชนส่วนใหญ่ ติดค่านิยม ในการพาบุตรหลานไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนขนาดใหญ่ในตัวอำเภอหรือในตัวเมืองจังหวัดเพราะเชื่อว่ามีศักยภาพในทางด้านการศึกษามากกว่าโรงเรียนในหมู่บ้าน ส่งผลให้โรงเรียนบ้านตลาดพัฒนา หมู่ 11 ต.สำโรง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำหมู่บ้าน มีนักเรียนศึกษาอยู่เพียง 4 คน เท่านั้น คือ ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (ป.4) และ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (ป.6) ชั้นเรียนละ 2 คน และ มีครูอยู่ 4 คน เรียกได้ว่าเป็นโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนน้อยที่สุดในประเทศไทย

ด.ญ.กาญจนา พลอยงาม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านตลาดพัฒนา กล่าวว่า มีความผูกพันกับโรงเรียนรวมไปถึง คุณครู และเพื่อนๆ ในโรงเรียนอย่างมาก หากโรงเรียนถูกยุบไป คงรู้สึกเสียใจ หรือหากต้องให้ย้ายไปเรียนร่วมกับโรงเรียนอื่น คงรู้สึกไม่มีความสุข เท่ากับได้เรียนอยู่ในโรงเรียนบ้านของตัวเอง

นายวัฒนา มีพร้อม ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตลาดพัฒนา เปิดเผยว่า ในปัจจุบันนี้ ผู้ปกครองส่วนใหญ่ นิยมส่งบุตรหลานเข้าไปเรียนในตัวเมือง ซึ่งมีรถบริการรับส่ง ถึงบ้าน ส่งผลให้ โรงเรียนตลาดพัฒนา มีจำนวนนักเรียนน้อยลงทุกปี ในปีที่ผ่านมา มีนักเรียนเพียง 12 คน และปีนี้ มีนักเรียนที่ยังศึกษาอยู่เพียง แค่ 4 คนเท่านั้น ทั้งนี้ การมีนักเรียนจำนวนน้อย ไม่ได้ส่งผลต่อการศึกษาของเด็ก แต่อย่างใด ทำให้ครูและนักเรียนมีความใกล้ชิดรู้สึกผูกพันกันเหมือนดั่งครอบครัว อีกทั้งในเรื่องการเรียนการสอนครูสามารถดูแลนักเรียนได้อย่างทั่วถึงเต็มที่

ทางด้าน ว่าที่ร.ต.ทวีศักดิ์ นามศรี ผู้อำนวยการสำนักงานการประถมศึกษา (ผอ.สพป.) ศรีสะเกษ เขต 2 กล่าวว่า ขณะนี้ในเบื้องต้น ทาง สพป.ศรีสะเกษ เขต 2 จะได้ดำเนินการนำนักเรียนจากโรงเรียนบ้านตลาดพัฒนา ไปเรียนร่วมกับนักเรียน ในโรงเรียนใกล้เคียง คือโรงเรียนบ้านโนนสำโรง ที่อยู่ไม่ห่างไกลจากหมู่บ้านตลาดพัฒนามากนัก ซึ่งในเรื่องนี้ได้มีการดำเนินการไปแต่เนิ่น ๆ แล้ว แต่ในภาคเรียนนี้ เด็กนักเรียน ยังไม่มาเรียนร่วมแต่อย่างใด คาดว่าคงเป็นภาคเรียนหน้าเด็กนักเรียนทั้ง 2 โรงเรียนจะได้มาเรียนร่วมกัน ส่วนด้านสถานที่โรงเรียนบ้านของตลาดพัฒนานั้น จะ หารือร่วมกับชาวบ้านอีกครั้งหนึ่ง ว่าจะมีการพัฒนาไปในทิศทางใดต่อไป