จันทบุรี - ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีสั่ง 5 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องป้องกันโรคมือ เท้า ปากเปื่อย บริเวณชายแดนไทย-เขมร เพื่อคัดกรองผู้ต้องสงสัย ด้านสาธารณสุขในพื้นที่ให้ความรู้เด็กนักเรียนที่ติดชายแดน เบื้องต้น ยังไม่พบผู้ป่วย
นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า จากการที่ได้เกิดการแพร่ระบาดของโรค มือ เท้า ปากเปื่อย ที่เกิดจากเชื้อเอนเทอร์โรไวรัส 71 หรือ EV 71 ในพื้นที่ประเทศกัมพูชา ในส่วนของจังหวัดจันทบุรีที่มีพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศกัมพูชา ซึ่งเรื่องนี้ทางจังหวัดได้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตามจุดผ่านแดนถาวร และจุดผ่อนปรนทางการค้า อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว เพื่อเตรียมความพร้อม และคัดกรองผู้ต้องสงสัยที่อาจติดเชื้อข้ามมาในประเทศ พร้อมจัดทีมแพทย์ พยาบาลชุดเคลื่อนที่เร็วใน 5 หน่วยงาน ที่ประกอบด้วย ด่านการควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ สถานีอนามัยบ้านบึงชนัง ทหาร และด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ประจำอยู่พื้นที่ชายแดนเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด
เบื้องต้น คัดกรอง ตรวจไข้ ซึ่งหากพบผู้ป่วยที่มีอาการไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส มีอาการทางระบบหายใจผิดปกติ จะกักตัวไว้ในพื้นที่ แต่ถ้าหากผู้ป่วยเป็นเด็กไทยบริเวณชายแดนจะมีระบบส่งตัวผู้ป่วยช่องทางด่วนจากโรงพยาบาลชุมชนไปยังโรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วนโดยทันที อย่างไรก็ตาม สถานการณ์บริเวณชายแดนจังหวัดจันทบุรียังไม่มีรายงานการพบผู้ป่วยโรค มือ เท้า ปากเปื่อย จากการติดเชื้อเอนเทอร์โรไวรัส 71
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2555 ถึงปัจจุบัน จังหวัดจันทบุรีพบผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปากเปื่อย เป็นเพียงเชื้อ Coxsackie virus A 16 หรือ Cox A 16 จำนวน 146 ราย ส่วนใหญ่พบในศูนย์เด็กเล็ก และโรงเรียนชั้นปฐมวัย เป็นเด็กอายุ 2 ปีครึ่ง ถึง 5 ปี พบมากที่สุดในพื้นที่อำเภอมะขาม และได้ทำการรักษาหายไปแล้ว
นายวิชิต กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ ทางสาธารณสุขอำเภอโป่งน้ำร้อน สถานีอนามัยในพื้นที่ อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ได้มีการลงพื้นที่ให้ความรู้แก่นักเรียนโรงเรียนที่ติดกับชายแดน ในการป้องกันดูแลสุขภาพ และให้ความรู้ในการป้องกันโรคมือ เท้าปากเปื่อย และให้ความรู้ในการล้างมือที่ถูกต้อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้นักเรียนพ้นจากการติด โรคมือ เท้า ปากเปื่อยได้ในระดับหนึ่ง แต่การเฝ้าระวังทุกหน่วยงานในพื้นที่ทั้ง 2 อำเภอ ยังมีการดูแล และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า จากการที่ได้เกิดการแพร่ระบาดของโรค มือ เท้า ปากเปื่อย ที่เกิดจากเชื้อเอนเทอร์โรไวรัส 71 หรือ EV 71 ในพื้นที่ประเทศกัมพูชา ในส่วนของจังหวัดจันทบุรีที่มีพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศกัมพูชา ซึ่งเรื่องนี้ทางจังหวัดได้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตามจุดผ่านแดนถาวร และจุดผ่อนปรนทางการค้า อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว เพื่อเตรียมความพร้อม และคัดกรองผู้ต้องสงสัยที่อาจติดเชื้อข้ามมาในประเทศ พร้อมจัดทีมแพทย์ พยาบาลชุดเคลื่อนที่เร็วใน 5 หน่วยงาน ที่ประกอบด้วย ด่านการควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ สถานีอนามัยบ้านบึงชนัง ทหาร และด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ประจำอยู่พื้นที่ชายแดนเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด
เบื้องต้น คัดกรอง ตรวจไข้ ซึ่งหากพบผู้ป่วยที่มีอาการไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส มีอาการทางระบบหายใจผิดปกติ จะกักตัวไว้ในพื้นที่ แต่ถ้าหากผู้ป่วยเป็นเด็กไทยบริเวณชายแดนจะมีระบบส่งตัวผู้ป่วยช่องทางด่วนจากโรงพยาบาลชุมชนไปยังโรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วนโดยทันที อย่างไรก็ตาม สถานการณ์บริเวณชายแดนจังหวัดจันทบุรียังไม่มีรายงานการพบผู้ป่วยโรค มือ เท้า ปากเปื่อย จากการติดเชื้อเอนเทอร์โรไวรัส 71
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2555 ถึงปัจจุบัน จังหวัดจันทบุรีพบผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปากเปื่อย เป็นเพียงเชื้อ Coxsackie virus A 16 หรือ Cox A 16 จำนวน 146 ราย ส่วนใหญ่พบในศูนย์เด็กเล็ก และโรงเรียนชั้นปฐมวัย เป็นเด็กอายุ 2 ปีครึ่ง ถึง 5 ปี พบมากที่สุดในพื้นที่อำเภอมะขาม และได้ทำการรักษาหายไปแล้ว
นายวิชิต กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ ทางสาธารณสุขอำเภอโป่งน้ำร้อน สถานีอนามัยในพื้นที่ อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ได้มีการลงพื้นที่ให้ความรู้แก่นักเรียนโรงเรียนที่ติดกับชายแดน ในการป้องกันดูแลสุขภาพ และให้ความรู้ในการป้องกันโรคมือ เท้าปากเปื่อย และให้ความรู้ในการล้างมือที่ถูกต้อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้นักเรียนพ้นจากการติด โรคมือ เท้า ปากเปื่อยได้ในระดับหนึ่ง แต่การเฝ้าระวังทุกหน่วยงานในพื้นที่ทั้ง 2 อำเภอ ยังมีการดูแล และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
