เชียงราย - ตำรวจพร้อมกำลังทหารพราน ทพ.31 ฉก.ม.3 จับได้ยกแก๊ง เครือข่ายค้ายาบ้าเรือนจำอยุธยา โทร.สั่งจัดขบวนขนยา 3.8 หมื่นเม็ดจากชายแดนเชียงรายส่งภาคกลาง พร้อมจัดให้มีรถนำสังเกตเส้นทางล่วงหน้าพร้อมสรรพ แต่สุดท้ายไปไม่รอดทั้งขบวนการ
วันนี้ (9 ก.ค.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ ผบก.ภ.เชียงราย พ.ต.อ.วันชัย สุวรรณศิริเขต รอง ผบก.ภ.เชียงราย พร้อมด้วยทหารพรานจาก ทพ.31 ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมคดียาเสพติด ที่ห้องประชุมดุรงควิบูลย์ กองบังคับการ ภ.เชียงราย โดยมีผู้ต้องหาจำนวน 5 คน ประกอบไปด้วย นายชัยณรงค์ กองช้าง อายุ 27 ปี ชาว จ.อุทัยธานี, น.ส.ปานทิพย์ อ่อนศรี อายุ 23 ปี ชาว จ.อุทัยธานี, นางพิสมัย จี๋แจ่ม อายุ 28 ปี ชาว จ.เชียงราย, นายสำเนียง เป้าชัง อายุ 36 ปี ชาว อ.มหาสารคาม และ น.ส.ฉวีวรรณ วงศ์คำแก้ว อายุ 38 ปี ชาว จ.ลพบุรี พร้อมของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 38,000 เม็ด รถยนต์กระบะ 2 คัน และโทรศัพท์มือถือจำนวน 6 เครื่อง
การจับกุมมีขึ้นเมื่อตำรวจและทหารพราน ทพ. 31 นำกำลังประจำด่านตรวจกิ่วทัพยั้ง ต.แม่จัน ต.แม่จัน ถนนพหลโยธิน ต่อมาได้จับกุมรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำตาล ทะเบียน บล 2475 นครสวรรค์ ขับผ่านมาจากทาง อ.แม่สาย มุ่งหน้าไปทาง อ.เมืองเชียงราย จึงให้สัญญาณหยุดตรวจ พบนายชัยณรงค์ และ น.ส.ปานทิพย์อยู่ในรถ
เมื่อตรวจค้นรถ พบที่ช่องเก็บอุปกรณ์เครื่องมือท้ายรถมียาบ้าซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกเป็นมัดๆ รวม 19 มัด ทั้งหมด 38,000 เม็ด จึงจับกุมตัวทั้งคู่เอาไว้
ช่วงเดียวกัน เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนทราบว่าก่อนหน้านี้ได้มีคนขับรถยนต์ปิกอัพ ยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู สีขาว ทะเบียน กง 162 กาญจนบุรี ทำหน้าที่นำหน้าไป จึงประสานตำรวจ สภ.แม่ลาว จ.เชียงราย สกัดจับได้ที่ด่านตรวจแม่ลาว บนถนนสายเดียวกัน จึงจับกุมตัวผู้ต้องหาได้อีก 3 คนที่นั่งไปในรถคันดังกล่าว
สอบสวนสารภาพว่า การขนยาบ้าครั้งนี้ทำตามคำสั่งผู้ต้องขังในเรือนจำกลาง จ.พระนครศรีอยุธยา ที่โทรศัพท์ให้แต่ละคนทำหน้าที่ขนและนำหน้าเพื่อสังเกตเส้นทาง จากนั้นให้นำไปส่งที่ภาคกลาง เพื่อแลกกับค่าจ้างมัดละ 17,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ปัจจุบันเป็นฤดุฝนทำให้เป็นอุปสรรคต่อการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจต่างๆ ยอมรับว่าบางแห่งเมื่อเกิดฝนตกหนักทางตำรวจก็มักจะไม่เข้มงวดปล่อยให้รถยนต์ผ่านได้โดยสะดวก แต่คืนวันเกิดเหตุทางตำรวจและทหารพรานที่ด่านแม่จันกลับเข้มงวด ตรวจรถทุกคันเพื่อหาสิ่งผิดกฎหมาย จึงทำให้สามารถจับกุมพร้อมของกลางได้ดังกล่าว
