พระนครศรีอยุธยา - ชาวไทยพุทธจำนวนมากพากันเดินทางไปกราบ ”พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา” ที่ประดิษฐานอยู่กลางโบราณสถาน อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
วันนี้ (6 ก.ค.) ที่บริเวณลานด้านข้างวัดพระราม อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้มีประชาชนจำนวนมากพากันเดินทางไปสักการบูชาพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา ซึ่งแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต แห่งเสถียรธรรมสถาน อัญเชิญมาประดิษฐาน ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยในเช้าวันเดียวกันนี้มีประชาชนที่กำลังจะเดินทางไปทำงาน และนักเรียน พากันมากราบไหว้ และใส่บาตรให้กับแม่ชี โดยระหว่างการสวดมนต์ในช่วงบ่ายวันที่ 5 ก.ค.ยังได้เกิดปรากฎการณ์พระอาทิตย์ทรงกรดด้วย
แม่ชีศันสนีย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา ได้ประดิษฐานเป็นประธานในการสวดมนต์ข้าม 26 ศตวรรษ ในวันที่ 4 มิ.ย.เนื่องในวันวิสาขบูชาโลก ณ ท้องสนามหลวง ก่อนได้ถูกอัญเชิญไปประดิษฐานเป็นการถาวร ณ สาวิกาสิกขาลัย เสถียรธรรมสถาน ในเช้าวันที่ 5 มิ.ย. โดยพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา เป็นหัวใจของการศึกษาโดยเฉพาะเด็กๆ กำลังอยู่ในช่วงของการศึกษา ฉะนั้น ต้องเป็นการศึกษาที่รอดในทุกความหมาย การศึกษาที่พาให้ใจของเรารอดเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เด็กๆ จะต้องรู้ว่าทุกวันนี้ถ้าการศึกษาไม่สามารถทำให้เรารอดได้นั้น จะเกิดการเบียดเบียนขึ้นอย่างไร เวลาที่เรามีการศึกษาที่ไม่ได้พาให้ใจของคนรอด ไม่ทำให้สติปัญญาของคนรอด เราจะยังคงตกเป็นเหยื่ออยู่ แม้กายรอด แต่ใจไม่รอด ก็เรียกว่ายังเป็นเหยื่ออยู่ ฉะนั้น เด็กๆ ต้องเจริญสติปัญญาเพื่ออารักขากายอารักขาใจ เป็นมนุษย์ที่แท้ ไม่เป็นแค่เหยื่อ
พระพุทธรูปองค์สีดำที่เราพบเห็นอยู่ในขณะนี้ เป็นชื่อที่เรียกตามลักษณะของสี คือสีดำ ที่คนทั้งหลายเชื่อมั่นว่าเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งสถิตอยู่ที่นาลันทา ที่พุทธภูมิ แดนดินที่เคยเป็นคลังสมองของนักปราชญ์ที่คนอยากฉลาดต้องไปศึกษาจากที่นั่น ที่นาลันทา พระพุทธรูปองค์นี้อยู่มาคู่ดินคู่ฟ้าคู่นาลันทามาตลอด ที่คนทั้งหลายมีความเชื่อมั่นว่าศักดิ์สิทธิ์เพราะให้ความสำเร็จแก่คนที่มากราบไหว้ แล้วตั้งจิตอธิษฐานขอพร ความศักดิ์สิทธิ์นั้นก็คือสิ่งที่ให้เกิดความ สำเร็จนั่นเอง และเพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสสักการะพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา จึงได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดแรก จนถึงวันที่ 9 ก.ค.นี้ และจะเดินทางต่อไปยัง จ.สุพรรณบุรีต่อไป
วันนี้ (6 ก.ค.) ที่บริเวณลานด้านข้างวัดพระราม อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้มีประชาชนจำนวนมากพากันเดินทางไปสักการบูชาพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา ซึ่งแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต แห่งเสถียรธรรมสถาน อัญเชิญมาประดิษฐาน ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยในเช้าวันเดียวกันนี้มีประชาชนที่กำลังจะเดินทางไปทำงาน และนักเรียน พากันมากราบไหว้ และใส่บาตรให้กับแม่ชี โดยระหว่างการสวดมนต์ในช่วงบ่ายวันที่ 5 ก.ค.ยังได้เกิดปรากฎการณ์พระอาทิตย์ทรงกรดด้วย
แม่ชีศันสนีย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา ได้ประดิษฐานเป็นประธานในการสวดมนต์ข้าม 26 ศตวรรษ ในวันที่ 4 มิ.ย.เนื่องในวันวิสาขบูชาโลก ณ ท้องสนามหลวง ก่อนได้ถูกอัญเชิญไปประดิษฐานเป็นการถาวร ณ สาวิกาสิกขาลัย เสถียรธรรมสถาน ในเช้าวันที่ 5 มิ.ย. โดยพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา เป็นหัวใจของการศึกษาโดยเฉพาะเด็กๆ กำลังอยู่ในช่วงของการศึกษา ฉะนั้น ต้องเป็นการศึกษาที่รอดในทุกความหมาย การศึกษาที่พาให้ใจของเรารอดเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เด็กๆ จะต้องรู้ว่าทุกวันนี้ถ้าการศึกษาไม่สามารถทำให้เรารอดได้นั้น จะเกิดการเบียดเบียนขึ้นอย่างไร เวลาที่เรามีการศึกษาที่ไม่ได้พาให้ใจของคนรอด ไม่ทำให้สติปัญญาของคนรอด เราจะยังคงตกเป็นเหยื่ออยู่ แม้กายรอด แต่ใจไม่รอด ก็เรียกว่ายังเป็นเหยื่ออยู่ ฉะนั้น เด็กๆ ต้องเจริญสติปัญญาเพื่ออารักขากายอารักขาใจ เป็นมนุษย์ที่แท้ ไม่เป็นแค่เหยื่อ
พระพุทธรูปองค์สีดำที่เราพบเห็นอยู่ในขณะนี้ เป็นชื่อที่เรียกตามลักษณะของสี คือสีดำ ที่คนทั้งหลายเชื่อมั่นว่าเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งสถิตอยู่ที่นาลันทา ที่พุทธภูมิ แดนดินที่เคยเป็นคลังสมองของนักปราชญ์ที่คนอยากฉลาดต้องไปศึกษาจากที่นั่น ที่นาลันทา พระพุทธรูปองค์นี้อยู่มาคู่ดินคู่ฟ้าคู่นาลันทามาตลอด ที่คนทั้งหลายมีความเชื่อมั่นว่าศักดิ์สิทธิ์เพราะให้ความสำเร็จแก่คนที่มากราบไหว้ แล้วตั้งจิตอธิษฐานขอพร ความศักดิ์สิทธิ์นั้นก็คือสิ่งที่ให้เกิดความ สำเร็จนั่นเอง และเพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสสักการะพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา จึงได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดแรก จนถึงวันที่ 9 ก.ค.นี้ และจะเดินทางต่อไปยัง จ.สุพรรณบุรีต่อไป