เชียงราย - ตามรวบได้ยกแก๊ง มือฆ่าลูกจ้างสำนักงานสัสดีจังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาสารภาพสิ้นญาติผู้หญิงผู้ตายจ้างฆ่า 1 แสน จึงติดต่อพรรคพวกร่วมทีม ทำทีซื้อรถมือสองแต่ขอลองขับก่อน จนถึงจุดนัดหมายสบโอกาสใช้ลูกซองจ่อยิง ตร.เร่งขยายผลเตรียมจับคนจ้างวานต่อ
วันนี้ (6 ก.ค.55) พ.ต.อ.ชูวิทย์ กองแก้ว ผกก.สภ.เมือง จ.เชียงราย พ.ต.ท.สุพัฒน์ บุญลำ สารวัตรสืบสวน และ พ.ต.ต.ผดุงพล กิจชนะไพบูลย์ สารวัตรเวรเจ้าของคดียิงนายวิชัย ศรีวิชัย อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 121/192 ม.3 ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ลูกจ้างประจำสำนักงานสัสดี จ.เชียงราย ที่ถูกคนร้ายล่อผู้ตายไปยิงภายในสุสานชุมชนบ้านน้ำลัด ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 3 ก.ค.55 ที่ผ่านมา ได้นำกำลังตำรวจเข้าจับกุมตัวนายพันกร อภินันท์วรโชติ อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 81 ม.3 ต.ผางาม อ.เวียงชัย จ.เชียงราย นายนภดล สดศรี อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 120 ม.7 ต.หงาว อ.เทิง จ.เชียงราย และ น.ส.มะลิวรรณ ใจมูล อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 163 ม.13 ต.แม่กรณ์ อ.เมือง จ.เชียงราย พร้อมตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและไตร่ตรองเอาไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันลักทรัพย์
โดยการจับกุมมีขึ้นเมื่อตำรวจสืบทราบจนเชื่อได้ว่า ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมนายวิชัย เนื่องจากก่อนหน้านี้พยานหลายคนพบเห็นรถยนต์ที่เกี่ยวข้องวิ่งเข้าออกภายในสุสาน และตำรวจได้แกะรอยจนสืบหารถคันดังกล่าว และสามารถสาวไปถึงตัวนายพันกร และเมื่อสอบสวนนายพันกร ได้ความว่า ร่วมกับนายนภดล และ น.ส.มะลิวรรณ ในการวางแผนและฆาตกรรรมนายวิชัย เพราะนายพันกร ได้รับการว่าจ้างจากญาติผู้หญิง ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดกับผู้ตายเป็นเงิน 100,000 บาท และรับมาล่วงหน้าแล้ว 50,000 บาท
จากนั้นนายพันกร ได้ไปชักชวนนายนภดล ให้เป็นคนขับรถและให้ น.ส.มะลิวรรณ โทรศัพท์ไปล่อลวงนายวิชัย ผู้ตายออกจากสำนักงานสัสดี จ.เชียงราย ที่อยู่บนศาลากลางจังหวัดฯไม่ห่างจากสุสานที่เกิดเหตุมากนัก โดยหลอกว่า จะซื้อรถยนต์มือสองที่นายวิชัย ยึดเป็นอาชีพเสริมและตั้งขายไว้
เมื่อนายวิชัย หลงกล น.ส.มะลิวรรณ ก็หลอกให้พาไปทดลองขับรถที่อ้างว่าจะซื้อโดยให้ น.ส.มะลิวรรณ เป็นคนขับและผู้ตายนั่งโดยสารไปด้วย กระทั่งไปถึงที่หมายใกล้สุสาน นายพันกร และนายนภดล จึงขับรถยนต์เช่าอีกคันไล่ตามท้ายไป
เมื่อถึงจุดหมาย น.ส.มะลิวรรณ จึงจอดรถและเปิดประตูลงจากรถไป จากนั้นนายพันกร ได้ถือปืนลูกซองยาวตรงไปยิงใส่นายวิชัย ขณะนั่งอยู่ในรถจนเสียชีวิตคาที่ จากนั้นจึงนำสร้อยคอทองคำที่ผู้ตายใส่อยู่จำนวน 1 เส้นน้ำหนัก 5 บาทไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งที่ จ.พะเยา แต่ยังไม่ทันได้นำเงินมาแบ่งกันก็ถูกตำรวจตามไปจับกุมได้ทั้งหมดเสียก่อน
จากนั้นทาง พ.ต.ต.ผดุงพล เจ้าของคดีจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามสถานที่ต่างๆ เช่น สุสานที่เกิดเหตุ ร้านทอง ฯลฯ ก่อนจะรวบรวมเป็นข้อมูลหลักฐานเพื่อขยายผลไปถึงผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังต่อไป
