ศูนย์ข่าวขอนแก่น - อธิการบดี มข.ชี้แจงกรณีนักศึกษาคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยขอนแก่นไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐ หรือ ม.นอกระบบ ยันกระบวนการยังไม่คลอดจาก สกอ. และยังไม่มีวาระเข้าพิจารณาใน ครม. ย้ำพร้อมให้สิทธิ นศ. ร่วมแสดงความคิดเห็น แต่ต้องไม่กระทบสิทธิของผู้อื่น
รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) กล่าวถึงกรณีนักศึกษาออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐว่า มข. เป็นสถาบันการศึกษาของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นศูนย์รวมทางความคิด สติปัญญาของสังคม เป็นที่พึ่งของชาวอีสานมาตลอด 48 ปี ซึ่งตระหนักดีถึงการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในทุกด้าน
ส่วนเรื่องมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐ (ม.นอกระบบ) เป็นความพยายามของรัฐบาลเพื่อที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานของแต่ละมหาวิทยาลัยให้มีความคล่องตัวและมีอิสระทางวิชาการอย่างแท้จริง
จึงได้มีการเสนอให้มหาวิทยาลัยในประเทศปรับเปลี่ยนสถานะภาพให้เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐตามนโยบายในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี มข. ได้เริ่มขับเคลื่อนไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับมาตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ.2541-2553 โดยเปิดโอกาสให้ภาคส่วนต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงาน การรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งมีคณะกรรมการฯ ที่ประกอบด้วยผู้แทนจากสภามหาวิทยาลัย สภาคณาจารย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และบุคลากรเป็นผู้รับผิดชอบในการรับฟังประชาวิจารณ์ จึงมาสู่การจัดทำ (ร่าง) พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยขอนแก่น พ.ศ....เพื่อไปเป็นมหาวิทยาลัยในกับของรัฐ ซึ่งการดำเนินการเสร็จสิ้นและผ่านความเห็นชอบจากสภามหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2553 แล้ว และนำเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไปแล้วตั้งแต่สมัยผู้บริหารชุดที่ผ่านมา
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเป็นชุดปัจจุบัน สกอ.ก็ได้ดำเนินการทำหนังสือสอบถามมายังมหาวิทยาลัยที่ได้ส่ง (ร่าง) พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยขอนแก่น พ.ศ....เพื่อไปเป็นมหาวิทยาลัยในกับของรัฐ เพื่อให้มหาวิทยาลัยยืนยันในร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว และสภามหาวิทยาลัยขอนแก่นก็มีมติให้ยืนยันเรื่องดังกล่าวไปยัง สกอ. อีกครั้งหนึ่ง
โดยในขณะนี้เรื่องดังกล่าวยังคงอยู่ที่ สกอ. ยังไม่ได้มีขั้นตอนในการส่งต่อเพื่อพิจารณาใดๆ ซึ่งต้องผ่านขั้นตอนทางกฎหมายอีกหลายลำดับ จึงจะถูกนำเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาในการประชุม ครม. เรื่องนี้ไม่ใช่วาระเร่งด่วน จึงยังไม่มีการพิจารณาใดๆ ในเรื่องนี้
รศ.ดร.กิตติชัยกล่าวอีกว่า กรณีความหนักใจของผู้ปกครอง และนักศึกษา ในเรื่องของค่าเล่าเรียนจะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นการตัดโอกาสทางการศึกษาของผู้มีรายได้น้อยทางอ้อมนั้น ทางมหาวิทยาลัยเน้นย้ำว่ามหาวิทยาลัยขอนแก่นยังคงยืนหยัดในบทบาทของการเป็นสถาบันการศึกษาที่เป็นที่พึงของชาวอีสาน เปิดโอกาสให้นักศึกษาที่ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย หากนักศึกษามีความขัดสนในเรื่องค่าเล่าเรียน มหาวิทยาลัยก็มีการจัดหางบประมาณเพื่อสนับสนุนเรื่องทุนการศึกษา ทั้งจากภาครัฐและเอกชนสนับสนุนให้แก่นักศึกษาที่ยากจนมาอย่างต่อเนื่อง
ตลอดจน การจัดหารายได้จากทรัพยากรของมหาวิทยาลัยที่มีอยู่ เช่น โครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ที่จะต้องเป็นกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ และสนับสนุนการศึกษา ที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคม ซึ่งครอบคลุมถึงการไม่มีสถานที่ที่เป็นแหล่งมั่วสุมหรือมอมเมาเยาวชน ไม่เป็นสถานที่ที่จำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และผิดกฎหมาย โดยหวังว่าวิธีนี้จะเป็นทางออกในการพัฒนาสถาบันโดยเงินรายได้ของมหาวิทยาลัย
การออกมาเคลื่อนไหวและแสดงความคิดเห็นของนักศึกษาเป็นสิทธิที่สามารถแสดงออกได้ และผู้บริหารก็รับฟังมาโดยตลอดและพร้อมที่จะหาทางออกร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม นักศึกษาออกมาเคลื่อนไหวต้องระวังไม่ไปกระทบสิทธิของผู้อื่นที่อยู่ร่วมกัน ทุกฝ่าย มุ่งเน้นที่จะพัฒนามหาวิทยาลัยในทุกด้านให้ก้าวไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ ที่พัฒนาและสร้างองค์ความรู้ใหม่ที่สามารถแก้ปัญหาของภูมิภาคและประเทศได้ มีการจัดการองค์กรที่ดี เป็นต้นแบบที่ดีในการบริหารจัดการทรัพยากร ทรัพย์สิน และทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อพัฒนามหาวิทยาลัยให้เกิดประโยชน์สูงสุดและพึ่งตนเองได้