ศรีสะเกษ -นายอำเภอขุขันธ์บุกตรวจยึดเสารั้วและเสาบ้านไม้พะยูงกว่า 1,000 ท่อนมูลค่า 25 ล้านบาทไว้ตรวจสอบ เนื่องจากตรวจสอบพบว่ามีการลักลอบซื้อเสาไม้พะยูงอำพรางส่งไปขายต่างประเทศ โดยสถานที่รับซื้อไม้พะยูงเป็นของอดีตแกนนำม็อบชาวบ้านใน อ.ขุขันธ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 79 ม.1 บ้านปรือใหญ่ ต.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ นายอนุรักษ์ ลีธีระประเสริฐ นายอำเภอขุขันธ์ พร้อมด้วย นายจำนงค์ ยอดย้อย ปลัด อ.ขุขันธ์ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ อส.อ.ขุขันธ์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ศก. 3 ไปทำการตรวจยึดเสารั้วและเสาบ้านไม้พะยูง จำนวนประมาณ 1,000 ท่อน ซึ่งกองเต็มอยู่บริเวณหน้าบ้านและบางส่วนได้มีการขนขึ้นไปไว้บนรถบรรทุกสิบล้อแล้ว เพื่อเตรียมที่จะขนย้ายไปส่งให้นายทุนที่รับซื้อ
จากการตรวจสอบพบว่าเสารั้วจะมีขนาดความยาวประมาณ 1.50-1.60 เมตร และเสาบ้านจะมีขนาดประมาณ 3.50-5 เมตร โดยมีการนำเอาผ้าใบสีเขียวมาปกคลุมไว้เพื่อกันฝนและเพื่ออำพรางสายตาของเจ้าหน้าที่ โดยมีเครื่องชั่งสำหรับเอาไว้รับซื้อเสาไม้พะยูงจำนวน 1 อันตั้งอยู่ใกล้กับกองไม้พะยูง ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นของนายสหรัฐ สุระมิตร อดีตแกนนำม็อบ อ.ขุขันธ์ คนดังที่ถูกลอบยิงเสียชีวิตไปนานหลายปีแล้ว และบ้านหลังนี้ได้ให้ชาว จ.อำนาจเจริญคนหนึ่งมาเช่าพักอาศัยและเพื่อรับซื้อเสาไม้พะยูง ซึ่งเสาไม้พะยูงที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดเอาไว้นี้หากนำส่งไปขายต่างประเทศจะมีมูลค่าประมาณ 25 ล้านบาท
นายอนุรักษ์ ลีธีระประเสริฐ นายอำเภอขุขันธ์ กล่าวว่า จากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่ามีกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งได้ออกตระเวนรับซื้อเสารั้วและเสาบ้านไม้พะยูงจากชาวบ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.ขุขันธ์ ในราคาต้นละ 1,000-2,000 บาท และรวบรวมไม้พะยูงบรรทุกรถสิบล้อนำส่งไปให้นายทุนที่รับซื้ออยู่ที่ จ.อำนาจเจริญ
ดังนั้น ตนจึงได้ร่วมกับหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ศก. 3 ได้ทำการตรวจยึดไม้พะยูงทั้งหมดเอาไว้ตรวจสอบว่ามีการดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่อย่างไร ซึ่งตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการคัดแยกไม้ออกจากกันเพื่อตรวจสอบว่าเป็นไม้เก่าหรือไม้ใหม่หรือว่าเป็นไม้อำพรางว่าเป็นไม้เก่าหรือไม่ จากนั้นได้นำเอาเสาไม้พะยูงทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ศก. 3 บ้านจองกอ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เพื่อทำการตรวจสอบต่อไป
นายที ดัชถุยาวัตร อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ม.7 ต.ป่ากอ อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ซึ่งเป็นผู้ที่เฝ้าดูแลไม้พะยูงทั้งหมดอยู่กล่าวว่า ตนได้รับซื้อเสารั้วและเสาบ้านไม้พะยูงเก่ามากในราคาท่อนละ 200-300 บาท เพื่อที่จะนำส่งไปให้เจ๊เขียว ซึ่งอยู่ที่ จ.อำนาจเจริญ โดยได้ทำการคัดเลือกส่วนเนื้อไม้พะยูงที่ยังดีอยู่เอาไว้ใช้ประโยชน์ ซึ่งตนมีหลักฐานการซื้อขายไม้พะยูงจากชาวบ้านที่นำเอามาขายให้เรียบร้อยถูกต้องไม่ใช่ไม้ที่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 79 ม.1 บ้านปรือใหญ่ ต.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ นายอนุรักษ์ ลีธีระประเสริฐ นายอำเภอขุขันธ์ พร้อมด้วย นายจำนงค์ ยอดย้อย ปลัด อ.ขุขันธ์ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ อส.อ.ขุขันธ์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ศก. 3 ไปทำการตรวจยึดเสารั้วและเสาบ้านไม้พะยูง จำนวนประมาณ 1,000 ท่อน ซึ่งกองเต็มอยู่บริเวณหน้าบ้านและบางส่วนได้มีการขนขึ้นไปไว้บนรถบรรทุกสิบล้อแล้ว เพื่อเตรียมที่จะขนย้ายไปส่งให้นายทุนที่รับซื้อ
จากการตรวจสอบพบว่าเสารั้วจะมีขนาดความยาวประมาณ 1.50-1.60 เมตร และเสาบ้านจะมีขนาดประมาณ 3.50-5 เมตร โดยมีการนำเอาผ้าใบสีเขียวมาปกคลุมไว้เพื่อกันฝนและเพื่ออำพรางสายตาของเจ้าหน้าที่ โดยมีเครื่องชั่งสำหรับเอาไว้รับซื้อเสาไม้พะยูงจำนวน 1 อันตั้งอยู่ใกล้กับกองไม้พะยูง ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นของนายสหรัฐ สุระมิตร อดีตแกนนำม็อบ อ.ขุขันธ์ คนดังที่ถูกลอบยิงเสียชีวิตไปนานหลายปีแล้ว และบ้านหลังนี้ได้ให้ชาว จ.อำนาจเจริญคนหนึ่งมาเช่าพักอาศัยและเพื่อรับซื้อเสาไม้พะยูง ซึ่งเสาไม้พะยูงที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดเอาไว้นี้หากนำส่งไปขายต่างประเทศจะมีมูลค่าประมาณ 25 ล้านบาท
นายอนุรักษ์ ลีธีระประเสริฐ นายอำเภอขุขันธ์ กล่าวว่า จากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่ามีกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งได้ออกตระเวนรับซื้อเสารั้วและเสาบ้านไม้พะยูงจากชาวบ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.ขุขันธ์ ในราคาต้นละ 1,000-2,000 บาท และรวบรวมไม้พะยูงบรรทุกรถสิบล้อนำส่งไปให้นายทุนที่รับซื้ออยู่ที่ จ.อำนาจเจริญ
ดังนั้น ตนจึงได้ร่วมกับหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ศก. 3 ได้ทำการตรวจยึดไม้พะยูงทั้งหมดเอาไว้ตรวจสอบว่ามีการดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่อย่างไร ซึ่งตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการคัดแยกไม้ออกจากกันเพื่อตรวจสอบว่าเป็นไม้เก่าหรือไม้ใหม่หรือว่าเป็นไม้อำพรางว่าเป็นไม้เก่าหรือไม่ จากนั้นได้นำเอาเสาไม้พะยูงทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ศก. 3 บ้านจองกอ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เพื่อทำการตรวจสอบต่อไป
นายที ดัชถุยาวัตร อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ม.7 ต.ป่ากอ อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ซึ่งเป็นผู้ที่เฝ้าดูแลไม้พะยูงทั้งหมดอยู่กล่าวว่า ตนได้รับซื้อเสารั้วและเสาบ้านไม้พะยูงเก่ามากในราคาท่อนละ 200-300 บาท เพื่อที่จะนำส่งไปให้เจ๊เขียว ซึ่งอยู่ที่ จ.อำนาจเจริญ โดยได้ทำการคัดเลือกส่วนเนื้อไม้พะยูงที่ยังดีอยู่เอาไว้ใช้ประโยชน์ ซึ่งตนมีหลักฐานการซื้อขายไม้พะยูงจากชาวบ้านที่นำเอามาขายให้เรียบร้อยถูกต้องไม่ใช่ไม้ที่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด
