บุรีรัมย์ - พิษฝนทิ้งช่วงนาข้าวเกษตรกรบุรีรัมย์ขาดน้ำแห้งตายเสียหายแล้วกว่า 2,000 ไร่ เผยทั้งจังหวัดเหี่ยวเฉารอแห้งตายเสียหายอีกกว่า 6 แสนไร่ ร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสานทำฝนหลวงก่อนต้นข้าวแห้งตายอื้อเป็นวงกว้างหากฝนไม่ตกมาใน 1-2 สัปดาห์นี้ ล่าสุด กส.ประสานขอฝนหลวงช่วยเกษตรกรแล้ว
วันนี้ (28 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถึงแม้ขณะนี้หลายพื้นที่จะประสบปัญหาอุทกภัย แต่ที่จังหวัดบุรีรัมย์กำลังประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงมานาน 1 เดือน ส่งผลให้นาข้าวของเกษตรกรทั้ง 13 หมู่บ้านในเขตพื้นที่ตำบลกลันทา อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ขาดน้ำหล่อเลี้ยงแห้งตายเสียหายแล้วกว่า 2,000 ไร่ จากพื้นที่เพาะปลูกข้าวทั้งตำบลกว่า 13,000 ไร่
อีกทั้งยังมีต้นข้าวที่ขาดน้ำหล่อเลี้ยงเหี่ยวเฉาใกล้แห้งตายอีกเป็นจำนวนมาก จึงร้องขอให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งประสานขอฝนหลวงเพื่อหล่อเลี้ยงต้นข้าวของเกษตรกรที่กำลังเหี่ยวเฉาไม่ให้แห้งตายเสียหายเป็นวงกว้าง ซึ่งจะทำให้เกษตรกรไม่ได้ผลผลิต และประสบปัญหาขาดทุน
นอกจากนี้ จากปัญหาฝนทิ้งช่วงดังกล่าวยังทำให้เกษตรกรบางรายต้องลงทุนไถหว่านข้าวเป็นครั้งที่สองเพื่อทดแทนต้นข้าวที่แห้งตาย ส่งผลให้ต้องแบกรับภาระต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น
ด้าน นายสำรวย สว่างอารมณ์ กำนันตำบลกลันทา อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ขณะนี้เกษตรกรในตำบลกลันทากำลังประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง ต้นข้าวแห้งตายเสียหายไปแล้วกว่า 2,000 ไร่ และเริ่มเหี่ยวเฉาอีกเป็นจำนวนมาก คาดว่าหากภายใน 1-2 สัปดาห์ยังไม่มีฝนตกลงมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวของเกษตรกร ก็จะแห้งตายเสียหายเป็นวงกว้างครอบคลุมทั้งตำบล
จากปัญหาดังกล่าวจะได้เรียกประชุมผู้นำหมู่บ้านทั้ง 13 หมู่บ้านให้เร่งทำการสำรวจพื้นที่นาข้าวที่เสียหายจากผลกระทบภัยแล้ง นำเสนอรายงานทางอำเภอ และจังหวัดเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกร โดยเบื้องต้นอยากร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประสานขอฝนหลวง เพื่อหล่อเลี้ยงต้นข้าวของเกษตรกรไม่ให้แห้งตายเสียหายเป็นวงกว้างออกไปอีก ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนแก่เกษตรกร
ขณะที่ นายศานติ นึกชอบ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากได้รับรายงานว่าขณะนี้ได้เกิดภาวะฝนทิ้งช่วงมานานกว่า 1 เดือนแล้ว ทำให้นาข้าวของเกษตรกรในหลายพื้นที่อำเภอได้รับผลกระทบต้นข้าวเหี่ยวเฉาใกล้แห้งตาย จากที่ทั้งจังหวัดมีพื้นที่เพาะปลูกข้าวกว่า 3.5 ล้านไร่ ซึ่งปัจจุบันเกษตรกรได้ไถหว่านปักดำข้าวไปแล้วกว่า 2.8 ล้านไร่ และได้รับผลกระทบจากภาวะฝนทิ้งช่วง นาข้าวขาดน้ำต้นข้าวเหี่ยวเฉาไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงขณะนี้กว่า 624,000 ไร่ หรือ 30 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่เพาะปลูกข้าวไปแล้วทั้งหมด
จากผลกระทบดังกล่าว เกษตรและสหกรณ์จังหวัดบุรีรัมย์ได้ร่วมกับทางจังหวัดฯ เร่งประสานขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง จ.นครราชสีมา และ จ.ขอนแก่น ให้ปฏิบัติการบินทำฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือนาข้าวของเกษตรกรในทุกพื้นที่อำเภอที่นาข้าวได้รับผลกระทบขาดน้ำอย่างเร่งด่วนแล้ว
“ผลกระทบจากภาวะฝนทิ้งช่วงดังกล่าว หากฝนไม่ตกต่อเนื่องภายใน 2 สัปดาห์ หรือ 15 วัน อาจทำให้ต้นข้าวของเกษตรกรที่ขาดน้ำเหี่ยวเฉากว่า 6 แสนไร่ ได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน ทั้งนี้ จึงขอให้เกษตรกรที่มีเครื่องสูบน้ำ และมีพื้นที่นาใกล้แหล่งน้ำได้ทำการสูบน้ำใส่นาข้าวที่ได้รับผลกระทบฝนทิ้งช่วงเพื่อหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่เหี่ยวเฉาไปก่อนในเบื้องต้น” นายศานติกล่าว