เชียงราย - ตำรวจใหม่ย้ายจากพะเยาเข้าประจำที่สภ.เมืองเชียงรายได้เพียง 1 เดือนยิงตัวตายปริศนาคาแฟลตที่พัก ภรรยาระบุอาจเกิดจากความเครียดที่ย้ายที่ทำงานใหม่ ผู้บังคับบัญชาเตรียมหาสาเหตุที่แท้จริง
วันนี้ (27 มิ.ย.) พ.ต.ต.ธวัช สิงห์ชัย สารวัตรเวร สภ.เมือง จ.เชียงราย ได้รับแจ้งมีเหตุตำรวจเสียชีวิตในแฟลตตำรวจตั้งอยู่ถนนสันติ พิทักษ์ราษฎร์ เทศบาลนครเชียงราย อ.เมือง จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.สมคิด หมั่นงาน รอง ผกก.สส.สภ.เมือง และแพทย์เวร รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบที่เกิดเหตุเป็นชั้นพักของนายตำรวจและที่ห้องเลขที่ 499 ชั้น 4 พบศพ ร.ต.ต.ราชัน แก้วก๋า อายุ 40 ปี ตำแหน่งรองสารวัตรฝ่ายอำนวยการ ด้านนโยบายและแผน กองบังคับการตำรวจภูธร (ภ.) จ.เชียงราย สภาพนอนหงายเสียชีวิตอยู่บนพื้นใกล้เตียงนอน
โดยสภาพศพพบถูกยิงเข้าที่ศีรษะค่อนไปทางท้ายทอยด้านขวาเป็นแผลฉกรรจ์จน เลือดนองเต็มพื้น ข้างศพพบอาวุธปืนพกสั้นประจำกายขนาด .38 ซึ่งพึ่งถูกยิงออกไปตกอยู่จำนวน 1 กระบอก โดยที่ ร.ต.ต.ราชัน ยังสวมใส่ชุดตำรวจครึ่งท่อนโดยสวมใส่กางเกงสีกากีแต่เสื้อสวมชุดเสื้อยืดสี ขาว จากการตรวจสอบภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือการถูกทำร้ายร่างกายจาก บุคคลอื่น แต่ก็ไม่พบเอกสารหรือจดหมายลาตายแต่อย่างใด
จากการสอบสวนทราบว่าเดิม ร.ต.ต.ราชัน มีภูมิลำเนาเดิมเป็นชาว จ.พะเยา โดยเคยเป็นตำรวจตระเวณชายแดน (ตชด.) ระดับประทวนสังกัดกองกำกับ ตชด.32 พะเยา แต่พึ่งโอนย้ายไปสังกัด ภ.เชียงราย ในระดับสัญญาบัตรเพราะสอบบรรจุได้ประมาณ 1 เดือน จึงไปทำงานเป็นรองสารวัตรฝ่ายอำนวยการด้านนโยบายและแผน ภ.เชียงราย ดังกล่าว จึงได้ย้ายไปอยู่แฟลตตำรวจพร้อมภรรยาและลูกชายในวัยเรียน กระทั่งก่อนเกิดเหตุเป็นช่วงเช้าภรรยาได้พาลูกชายจะไปส่งที่โรงเรียน แต่เมื่อออกมาจากห้องได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจากห้อง 1 นัดจึงกลับไปเปิดประตูดูก็พบสามีถูกยิงที่ศีรษะนอนอยู่กับพื้นและเสียชีวิตใน เวลาต่อมา
สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตทางภรรยา ร.ต.ต.ราชัน ระบุว่ายังไม่ทราบเพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันมาก่อน แต่อาจเป็นไปได้ที่มีความเครียดจากการเปลี่ยนมาทำงานใหม่ ทางพนักงานสอบสวนยังไม่สรุปสาเหตุการเสียชีวิต จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามขั้นตอน
ด้าน พ.ต.ท.สมคิด กล่าวว่านายตำรวจผู้นี้พึ่งย้ายไปสังกัด ภ.เชียงราย ได้เพียงประมาณ 1 เดือนจึงไม่เป็นที่รู้จักมักคุ้นของคนในพื้นที่มากนักดังนั้นจึงไม่มีเรื่อง ทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ส่วนกรณีความเครียดจากงานไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะพึ่งไปทำงานหากไม่ถนัดหรือ ไม่ชำนาญ ก็สามารถร้องต่อผู้บังคับบัญชาได้อยู่แล้ว ดังนั้นจะได้สอบพยานแวดล้อมและผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุต่อไป.
วันนี้ (27 มิ.ย.) พ.ต.ต.ธวัช สิงห์ชัย สารวัตรเวร สภ.เมือง จ.เชียงราย ได้รับแจ้งมีเหตุตำรวจเสียชีวิตในแฟลตตำรวจตั้งอยู่ถนนสันติ พิทักษ์ราษฎร์ เทศบาลนครเชียงราย อ.เมือง จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.สมคิด หมั่นงาน รอง ผกก.สส.สภ.เมือง และแพทย์เวร รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบที่เกิดเหตุเป็นชั้นพักของนายตำรวจและที่ห้องเลขที่ 499 ชั้น 4 พบศพ ร.ต.ต.ราชัน แก้วก๋า อายุ 40 ปี ตำแหน่งรองสารวัตรฝ่ายอำนวยการ ด้านนโยบายและแผน กองบังคับการตำรวจภูธร (ภ.) จ.เชียงราย สภาพนอนหงายเสียชีวิตอยู่บนพื้นใกล้เตียงนอน
โดยสภาพศพพบถูกยิงเข้าที่ศีรษะค่อนไปทางท้ายทอยด้านขวาเป็นแผลฉกรรจ์จน เลือดนองเต็มพื้น ข้างศพพบอาวุธปืนพกสั้นประจำกายขนาด .38 ซึ่งพึ่งถูกยิงออกไปตกอยู่จำนวน 1 กระบอก โดยที่ ร.ต.ต.ราชัน ยังสวมใส่ชุดตำรวจครึ่งท่อนโดยสวมใส่กางเกงสีกากีแต่เสื้อสวมชุดเสื้อยืดสี ขาว จากการตรวจสอบภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือการถูกทำร้ายร่างกายจาก บุคคลอื่น แต่ก็ไม่พบเอกสารหรือจดหมายลาตายแต่อย่างใด
จากการสอบสวนทราบว่าเดิม ร.ต.ต.ราชัน มีภูมิลำเนาเดิมเป็นชาว จ.พะเยา โดยเคยเป็นตำรวจตระเวณชายแดน (ตชด.) ระดับประทวนสังกัดกองกำกับ ตชด.32 พะเยา แต่พึ่งโอนย้ายไปสังกัด ภ.เชียงราย ในระดับสัญญาบัตรเพราะสอบบรรจุได้ประมาณ 1 เดือน จึงไปทำงานเป็นรองสารวัตรฝ่ายอำนวยการด้านนโยบายและแผน ภ.เชียงราย ดังกล่าว จึงได้ย้ายไปอยู่แฟลตตำรวจพร้อมภรรยาและลูกชายในวัยเรียน กระทั่งก่อนเกิดเหตุเป็นช่วงเช้าภรรยาได้พาลูกชายจะไปส่งที่โรงเรียน แต่เมื่อออกมาจากห้องได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจากห้อง 1 นัดจึงกลับไปเปิดประตูดูก็พบสามีถูกยิงที่ศีรษะนอนอยู่กับพื้นและเสียชีวิตใน เวลาต่อมา
สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตทางภรรยา ร.ต.ต.ราชัน ระบุว่ายังไม่ทราบเพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันมาก่อน แต่อาจเป็นไปได้ที่มีความเครียดจากการเปลี่ยนมาทำงานใหม่ ทางพนักงานสอบสวนยังไม่สรุปสาเหตุการเสียชีวิต จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามขั้นตอน
ด้าน พ.ต.ท.สมคิด กล่าวว่านายตำรวจผู้นี้พึ่งย้ายไปสังกัด ภ.เชียงราย ได้เพียงประมาณ 1 เดือนจึงไม่เป็นที่รู้จักมักคุ้นของคนในพื้นที่มากนักดังนั้นจึงไม่มีเรื่อง ทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ส่วนกรณีความเครียดจากงานไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะพึ่งไปทำงานหากไม่ถนัดหรือ ไม่ชำนาญ ก็สามารถร้องต่อผู้บังคับบัญชาได้อยู่แล้ว ดังนั้นจะได้สอบพยานแวดล้อมและผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุต่อไป.