ศูนย์ข่าวศรีราชา - มาม่าซังบาร์เกย์เมืองพัทยา เสียท่าชายหนุ่ม ที่อ้างตนเป็นนายทหารยศร้อยเอก หลอกมอมยารูดทรัพย์สูญทรัพย์สินหลายรายการ
วันนี้ ( 27 มิ.ย.) พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธร.เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ได้เข้าตรวจสอบเหตุคนถูกมอมยารูดทรัพย์ ภายในห้องหมายเลข 407 โรงแรมฟูลเลิฟอินน์ ซอยบงกช ย่านพัทยากลางซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 9 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยชายไทย 2 คน คือ นายสมบูรณ์ จันทร์มาทอง อายุ 39 ปี อาชีพมาม่าซังในบาร์เกย์แห่งหนึ่งย่านพัทยาใต้ สภาพอยู่ในอาการคล้ายคนเมายา และนายเอก ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง อายุประมาณ 30 ปี ซึ่งนอนสลบไสลอยู่บนเตียง จากการตรวจสอบบนโต๊ะในห้องพบขวดซุปไก่สกัด 1 ขวด ขวดสุราและโซดาวางอยู่จำนวนมาก
จากการสอบสวนนายสมบูรณ์ ให้การว่าก่อนเกิดเหตุได้ไปนั่งดื่มสุรา ที่ร้านลาบศรีสะเกษ ในซอยกอไผ่ ย่านพัทยาใต้กับนายเอก หลังจากนั้นได้พบนายนนท์ ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง อายุประมาณ 40 ปี ซึ่งอ้างตนเป็นนายทหารยศร้อยเอก และเคยรู้จักกับนายเอกมาก่อน จึงได้นั่งร่วมวงดื่มสุรากัน ก่อนจะพากันไปเปิดห้องนอนที่โรงแรมฟูลเลิฟอินน์
จากนั้นตนและนายเอกได้หมดสติไป เมื่อตื่นขึ้นมาก็ไม่พบตัวนายนนท์ อยู่ในห้องแล้ว เมื่อสำรวจทรัพย์สินปรากฏว่า เงินสดประมาณ 20,000 บาท ไอแพด 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ รวมถึงสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท ของนายเอก ได้หายไป จึงสงสัยว่าน่าจะถูกนายนนท์ มอมยาและลักทรัพย์ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่โรงแรมทราบ
หลังสอบสวน หน่วยกู้ภัยฯ ได้นำตัวทั้งคู่ส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลบางละมุง ก่อนที่ตำรวจจะนำภาพวงจรปิดมาตรวจสอบหาตัวคนร้าย เพื่อใช้เป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมต่อไป
วันนี้ ( 27 มิ.ย.) พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธร.เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ได้เข้าตรวจสอบเหตุคนถูกมอมยารูดทรัพย์ ภายในห้องหมายเลข 407 โรงแรมฟูลเลิฟอินน์ ซอยบงกช ย่านพัทยากลางซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 9 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยชายไทย 2 คน คือ นายสมบูรณ์ จันทร์มาทอง อายุ 39 ปี อาชีพมาม่าซังในบาร์เกย์แห่งหนึ่งย่านพัทยาใต้ สภาพอยู่ในอาการคล้ายคนเมายา และนายเอก ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง อายุประมาณ 30 ปี ซึ่งนอนสลบไสลอยู่บนเตียง จากการตรวจสอบบนโต๊ะในห้องพบขวดซุปไก่สกัด 1 ขวด ขวดสุราและโซดาวางอยู่จำนวนมาก
จากการสอบสวนนายสมบูรณ์ ให้การว่าก่อนเกิดเหตุได้ไปนั่งดื่มสุรา ที่ร้านลาบศรีสะเกษ ในซอยกอไผ่ ย่านพัทยาใต้กับนายเอก หลังจากนั้นได้พบนายนนท์ ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง อายุประมาณ 40 ปี ซึ่งอ้างตนเป็นนายทหารยศร้อยเอก และเคยรู้จักกับนายเอกมาก่อน จึงได้นั่งร่วมวงดื่มสุรากัน ก่อนจะพากันไปเปิดห้องนอนที่โรงแรมฟูลเลิฟอินน์
จากนั้นตนและนายเอกได้หมดสติไป เมื่อตื่นขึ้นมาก็ไม่พบตัวนายนนท์ อยู่ในห้องแล้ว เมื่อสำรวจทรัพย์สินปรากฏว่า เงินสดประมาณ 20,000 บาท ไอแพด 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ รวมถึงสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท ของนายเอก ได้หายไป จึงสงสัยว่าน่าจะถูกนายนนท์ มอมยาและลักทรัพย์ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่โรงแรมทราบ
หลังสอบสวน หน่วยกู้ภัยฯ ได้นำตัวทั้งคู่ส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลบางละมุง ก่อนที่ตำรวจจะนำภาพวงจรปิดมาตรวจสอบหาตัวคนร้าย เพื่อใช้เป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมต่อไป