ศรีสะเกษ - ชาวไทยใกล้ชายแดน “เขาพระวิหาร” นับพันคนแห่บริจาคโลหิตส่งให้สภากาชาดไทยและเตรียมไว้ใช้ในช่วงเหตุการณ์ไม่ปกติ ได้โลหิตกว่า 300,000 ซีซี ขณะนายอำเภอกันทรลักษ์สร้างสีสันจับฉลากมอบรางวัลแก่ผู้ที่มาบริจาคโลหิตด้วย สาวหนีภัยสงครามไทย-เขมร ชายแดนเขาพระวิหารเผยบริจาคโลหิตมาแล้ว 15 ครั้งและจะทำไปตลอดชีวิต
วันนี้ (26 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ นายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ นายอำเภอกันทรลักษ์ ได้นำคณะสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยคณะแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของ อ.กันทรลักษ์ มาทำการรับบริจาคโลหิตจากประชาชนทุกหมู่เหล่าในเขต อ.กันทรลักษ์ ซึ่งมีบรรดาประชาชนชาวไทยที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาใกล้กับเขาพระวิหาร ประมาณ 1,000 คน พากันมาเข้าแถวยาวเหยียดเพื่อร่วมบริจาคโลหิตให้เหล่ากาชาด จ.ศรีสะเกษ ที่ตั้งเตียงรับบริจาคโลหิตกว่า 60 เตียง โดยได้รับบริจาคโลหิตจากประชาชนในครั้งนี้จำนวนกว่า 300,000 ซีซี
นายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ นายอำเภอกันทรลักษ์ กล่าวว่า การรับบริจาคโลหิตครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี ซึ่งโลหิตที่ได้รับบริจาคนี้จะนำส่งไปยังสภากาชาดไทยเพื่อแจกจ่ายไปช่วยเหลือยังจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ขาดแคลนโลหิต และเพื่อเป็นการเตรียมโลหิตไว้ใช้ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ไม่ปกติอีกด้วย ซึ่งในการรับบริจาคโลหิตครั้งนี้ นอกจากจะมีการมอบเข็มบริจาคโลหิตและประกาศเกียรติคุณบัตรแล้ว ยังได้นำสิ่งของต่างๆ ที่ได้รับบริจาคมาจากพ่อค้า และประชาชนทั่วไป เช่น รถจักรยาน 2 ล้อ พัดลม หม้อหุงข้าว ผ้าห่ม มาจับฉลากเพื่อแจกจ่ายของรางวัลแก่ประชาชนที่มาร่วมบริจาคโลหิตด้วย
น.ส.นิภาพร แหวนหล่อ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222 ม.9 บ้านรุง ต.รุง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่มาร่วมบริจาคโลหิต กล่าวว่า ขณะที่เกิดเหตุการณ์สู้รบระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาที่บริเวณชายแดนเขาพระวิหารเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา ตนและญาติพี่น้องต้องอพยพหนีภัยสงครามกันอย่างโกลาหล และเห็นว่าโลหิตมีความจำเป็นมากหากเกิดการสู้รบขึ้นมา จึงมาร่วมบริจาคโลหิตให้เหล่ากาชาดศรีสะเกษ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 15 แล้ว และจะบริจาคโลหิตไปเรื่อยๆ ตลอดชีวิต เนื่องจากดีใจที่มีสุขภาพแข็งแรงทำให้สามารถบริจาคโลหิตได้ เพื่อที่จะได้เป็นการสร้างกุศลช่วยเหลือผู้ที่ขาดแคลนโลหิตทั่วประเทศต่อไป