ศูนย์ข่าวศรีราชา - ทึ่ง...เจ้าโบกี้ และเจ้าถุงทอง 2 เจ้าตูบพันธุ์ไทยยอดกตัญญู ใช้ชีวิตร่วมหญิงชราวัย 80 จนวินาทีสุดท้ายของชีวิต นั่งเฝ้าศพเจ้าของไม่ห่าง โดยไม่ยอมให้ผู้ใดเข้าใกล้ แพทย์ระบุ โรคประจำตัวกำเริบ หน้ามืดหัวฟาดดับคาบ้าน
เมื่อเวลา 06.30 น.วันนี้ (26 มิ.ย.) ร.ต.อ.เอกชัย มูลลี พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากนางอำไพ เพ็งสาธร อายุ 52 ปี ว่ามีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านเลขที่ 72/82 หมู่บ้านนาวีทองนิเวศน์ 1 ซ.บ่อนไก่ ม.6 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว มีเพื่อนบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูเหตุการณ์ หลังพบร่าง นางอิศราภรณ์ แก้วกรรณ์ อายุ 80 ปี เจ้าของบ้านนอนหงายเสียชีวิตอยู่บนพื้นปูนหลังบ้าน ในสภาพใส่ชุดนอนสีขาว มีเลือดไหลออกมาจากปาก และหัวเข่าด้านซ้ายมีรอยฟกช้ำ เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6 ชั่วโมง โดยมีสุนัขพันธุ์ไทยยอดกตัญญู 2 ตัว ชื่อเจ้าโบกี้ กับถุงทอง กำลังนั่งเฝ้าศพเจ้าของอย่างไม่ยอมห่างไปไหน
สอบปากคำนางอำไพ เพ็งสาธร เพื่อนบ้าน เล่าว่า ผู้ตายได้พักอาศัยอยู่บ้านเพียงลำพังมาเป็นเวลาหลายปี โดยมีสุนัขพันธุ์ไทยคู่ใจอยู่ด้วย 2 ตัว ซึ่งผู้ตายมีโรคประจำตัวรุมเร้าหลายโรค ต้องเดินทางไปพบแพทย์ และนำยากลับมากินที่บ้านเป็นประจำ ส่วนลูกๆ นั้น ได้ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ทราบว่าลูกๆ ได้เคยชวนผู้ตายไปอาศัยอยู่ด้วยกัน แต่ผู้ตายไม่ยอมไป ได้แต่บอกว่าจะอยู่ที่นี่ ตายที่นี่ ซึ่งในแต่ละเดือนลูกๆ จะกลับมาเยี่ยมแม่สักครั้งหนึ่ง และในทุกๆ วัน ผู้ตายจะออกมาเดินทักทายเพื่อนบ้าน แต่วันนี้เห็นหายไปจึงเห็นผิดสังเกต เมื่อเดินเข้าไปดูจึงพบว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว
ด้าน ร.ต.อ.เอกชัย มูลลี พนักงานสอบสวน กล่าวว่า สาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ คาดว่าผู้ตายน่าจะเกิดอาการหน้ามืด เนื่องจากผู้ตายป่วยเป็นโรคเบาหวาน และความดัน ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดแล้วไม่มีร่องรอยการต่อสู้ รื้อค้นทรัพย์สินแต่อย่างใด เบื้องต้น ได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตยังสถาบันนิติเวช และได้ติดต่อญาติให้มารับศพไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป