น่าน - สหพันธ์ท่องเที่ยวเมืองน่าน เชื่อเปิด AEC ทำท่องเที่ยวคึกคักแน่ ชูจุดเด่นใกล้หลวงพระบาง วิ่งรถแค่ครึ่งวันถึง แถม “นกแอร์” เพิ่มเที่ยวบินเข้า-ออกเป็นวันละ 3 เที่ยว จากเดิมบิน 3 เที่ยวต่อสัปดาห์
นายสุรวิทย์ เมธาวรนันท์ชัย ประธานสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า ในปี 2558 ประเทศไทยจะก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี อย่างเป็นทางการ เชื่อว่า จ.น่านจะได้ประโยชน์จากการเปิดเสรีอาเซียนครั้งนี้ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว
เพราะน่านมีชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน คือ สปป.ลาว เป็นจุดเชื่อมต่อการท่องเที่ยวระหว่างด่านห้วยโกร๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ ไปยังเมืองหลวงพระบาง โดยผ่านเส้นทางรถยนต์และทางเรือไปยังหลวงพระบางได้ภายในระยะเวลาเพียงครึ่งวัน ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าสู่ จ.น่านมากขึ้นหลายเท่าตัว จากปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 5% จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมา จ .น่านเฉลี่ยปีละประมาณ 4 แสนคน
นายสุรวิทย์ย้ำว่า เปิดเสรีอาเซียนจะทำให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติสะดวกสบายมากขึ้น จากปัจจุบันหากต้องการเดินทางจากหลวงพระบางมายังประเทศไทยผ่านด่านห้วยโกร๋นต้องไปทำวีซ่าที่นครหลวงเวียงจันทน์จึงจะสามารถเดินทางผ่านด่านมาได้ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร
ส่วนสถานการณ์ท่องเที่ยวของ จ.น่านในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนลดลง 30% เพราะปัจจัยจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งเป็นผลพวงจากปัญหาน้ำท่วมในภาคกลาง และกรุงเทพฯ และการที่จังหวัดท่องเที่ยวใหญ่ๆ จัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยว แต่คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาสัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติที่สงบเงียบของ จ.น่าน ที่ยังคงบริสุทธิ์และมีกลิ่นอายใกล้เคียงกับเมืองท่องเที่ยวหลวงพระบางที่มีชื่อเสียงของ สปป.ลาว
นอกจากนี้ ปัจจุบันการเดินทางมา จ.น่านสะดวกสบายมากขึ้น เพราะสายการบินนกแอร์ได้เพิ่มจำนวนเที่ยวบินจากไป-กลับ สัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 1 เที่ยวบิน เป็นไปกลับ เช้า-กลางวัน-เย็น รวมวันละ 3 เที่ยวบินทุกวัน โดยใช้เครื่องบินซาบขนาด 34 ที่นั่ง ส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวที่โดยสารเครื่องบินเดินทางมา จ.น่านเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
นายสุรวิทย์ เมธาวรนันท์ชัย ประธานสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า ในปี 2558 ประเทศไทยจะก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี อย่างเป็นทางการ เชื่อว่า จ.น่านจะได้ประโยชน์จากการเปิดเสรีอาเซียนครั้งนี้ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว
เพราะน่านมีชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน คือ สปป.ลาว เป็นจุดเชื่อมต่อการท่องเที่ยวระหว่างด่านห้วยโกร๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ ไปยังเมืองหลวงพระบาง โดยผ่านเส้นทางรถยนต์และทางเรือไปยังหลวงพระบางได้ภายในระยะเวลาเพียงครึ่งวัน ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าสู่ จ.น่านมากขึ้นหลายเท่าตัว จากปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 5% จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมา จ .น่านเฉลี่ยปีละประมาณ 4 แสนคน
นายสุรวิทย์ย้ำว่า เปิดเสรีอาเซียนจะทำให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติสะดวกสบายมากขึ้น จากปัจจุบันหากต้องการเดินทางจากหลวงพระบางมายังประเทศไทยผ่านด่านห้วยโกร๋นต้องไปทำวีซ่าที่นครหลวงเวียงจันทน์จึงจะสามารถเดินทางผ่านด่านมาได้ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร
ส่วนสถานการณ์ท่องเที่ยวของ จ.น่านในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนลดลง 30% เพราะปัจจัยจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งเป็นผลพวงจากปัญหาน้ำท่วมในภาคกลาง และกรุงเทพฯ และการที่จังหวัดท่องเที่ยวใหญ่ๆ จัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยว แต่คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาสัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติที่สงบเงียบของ จ.น่าน ที่ยังคงบริสุทธิ์และมีกลิ่นอายใกล้เคียงกับเมืองท่องเที่ยวหลวงพระบางที่มีชื่อเสียงของ สปป.ลาว
นอกจากนี้ ปัจจุบันการเดินทางมา จ.น่านสะดวกสบายมากขึ้น เพราะสายการบินนกแอร์ได้เพิ่มจำนวนเที่ยวบินจากไป-กลับ สัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 1 เที่ยวบิน เป็นไปกลับ เช้า-กลางวัน-เย็น รวมวันละ 3 เที่ยวบินทุกวัน โดยใช้เครื่องบินซาบขนาด 34 ที่นั่ง ส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวที่โดยสารเครื่องบินเดินทางมา จ.น่านเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
