บุรีรัมย์ - ตัวแทนฝ่ายไทยโดย จ.บุรีรัมย์ ร่วมฝ่ายความมั่นคง และ อ.บ้านกรวด เรียกตัวแทนฝ่ายกัมพูชาเจรจา หลังเขมรละเมิดข้อตกลง ลอบนำเครื่องจักรเข้ามาขุดเจาะสร้างถนนบริเวณพื้นที่ทับซ้อนไม่ชัดเจนเรื่องเขตแดนจุดผ่อนปรน “ช่องสายตะกู” โดยไม่หารือหรือแจ้งฝ่ายไทย หวั่นเกิดปัญหาพิพาทระหว่างกัน หลังเจรจาฝั่งกัมพูชายอมชะลอการขุด
วันนี้ (18 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. ที่บริเวณศูนย์ประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตรงข้ามกับบ้านจุ๊บโกกี ต.อำปึล อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ตัวแทนฝ่ายไทย นำโดย นายเฉลิมพล พลวัน ปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะตัวแทนจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.อ.ณัฐ ศรีอินทร์ รองเสนาธิการกองกำลังสุรนารี, พ.อ.ทัศพล สุพีสุนทร ผบ. หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ตัวแทนฝ่ายความมั่นคง และตัวแทนจากอำเภอบ้านกรวด ได้เรียกตัวแทนฝ่ายกัมพูชา นำโดย นายอิง วอน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย, เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และตัวแทนอำเภอบันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา เข้าเจรจาทำความเข้าใจ
หลังทางฝั่งกัมพูชาได้ละเมิดข้อตกลง โดยการนำรถแบ็กโฮ และเครื่องจักรกลมาทำการขุดเจาะทำถนน บริเวณพื้นที่ทับซ้อนที่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด โดยไม่มีการหารือ หรือแจ้งให้ทางฝั่งไทยได้รับทราบก่อน จึงเกรงว่าจะเกิดปัญหาพิพาทระหว่างกันขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังการเจรจาระหว่างตัวแทนของทั้งสองฝ่าย ล่าสุดทางฝั่งกัมพูชายอมชะลอการขุดเจาะ และได้เคลื่อนย้ายเครื่องจักรกลออกจากพื้นที่ดังกล่าวเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาข้อพิพาทที่อาจจะเกิดขึ้น
ด้านนายเฉลิมพล พลวัน ปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ข้อตกลงระหว่างฝ่ายทหารกับจังหวัดของทั้งสองฝั่ง หากจะมีการพัฒนาหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ต้องมีการพูดคุยเจรจาเห็นชอบร่วมกัน เนื่องจากเป็นพื้นที่พิพาทหรือพื้นที่ทับซ้อนที่ยังไม่ทราบชัดเจนว่าเป็นพื้นที่ของฝ่ายใด และหากจะกระทำการสิ่งใดต้องห่างจากแนวหลักเขตแดนประมาณ 500 เมตร ประกอบกับบริเวณดังกล่าวได้มีการเปิดเป็นจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนระหว่างกัน ดังนั้นจึงได้มีการพูดคุยเจรจากัน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาพิพาทหรือการกระทบกระทั่งที่อาจเกิดขึ้นตามมา