ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “รอง ผบช.ภ.3” เผยผลตรวจชุดข้อสอบตำรวจสนามสอบโคราชพบพิรุธโกงสอบในกระดาษคำถาม- คำตอบ รวม 149 ราย จากทั้งหมดกว่า 36,000 ราย เตรียมเรียกตัวสอบสวนขยายผลหาข้อมูลเพิ่ม พร้อมเร่งไล่ล่าผู้ต้องหาสำคัญอีก 2 คน ที่ออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ หวังรวบยกแก๊งโกงสอบ แต่ยังไร้วี่แวว
บ่ายวันนี้ ( 17 มิ.ย.) พล.ต.ต.จักรทิพย์ โหละสุตสกุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รองผบช.ภ.3) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตการสอบแข่งขันบุคคลภายนอกเพื่อบรรจุแต่งตั้งเป็นราชการตำรวจชั้นประทวน ยศสิบตำรวจตรี ประจำปี 2555 ของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 สนามสอบ จ.นครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดี ว่า จากการตรวจสอบชุดกระดาษคำถาม - คำตอบข้อสอบ ของผู้ที่เข้าสอบเข้ารับราชการนายสิบตำรวจ เพื่อตรวจสอบหาพิรุธในกระดาษข้อสอบเหล่านั้น หลังจากที่สืบทราบว่ามีการใช้วรรณยุกต์ และสระที่อยู่ในคำถามและคำตอบข้อแรกและข้อที่ 2 มาถอดรหัส เพื่อระบุเป็นชุดข้อสอบ ก่อนรอรับสัญญาณการให้รหัส จากภายนอกมายังห้องสอบ ซึ่งจะทำให้สามารถระบุคำตอบแยกเป็นข้อสอบในแต่ละชุดได้ นั้น
ล่าสุดขณะนี้ชุดตรวจสอบของตำรวจภูธรภาค 3 ได้ทำการตรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผลสรุปพบว่ามีพิรุธการจดตัวเลข สระ และ วรรณยุกต์ คล้ายเป็นการถอดรหัสตามคำให้การของทางผู้สมัครสอบที่ถูกจับได้ และหนึ่งในผู้ต้องหาได้ให้การไว้ รวมทั้งสิ้นจำนวน 149 ชุด หรือผู้เข้าสอบ 149 ราย จากทั้งหมดกว่า 36,000 ชุด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการเรียกตัวผู้ที่ทำข้อสอบเหล่านั้น พร้อมเรียกผู้ปกครองมาสอบสวนข้อเท็จจริงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริตข้อสอบในครั้งนี้หรือไม่ และหากพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับการทุจริตข้อสอบก็จะถูกตัดสิทธิการสมัครสอบเข้ารับข้าราชการทุกกรณีเช่นเดียวกับกลุ่มผู้สมัครที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้
พล.ต.ต.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าทางคดีนั้น จนถึงขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาขบวนการทุจริตสอบนายสิบตำรวจ ของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 สนามสอบ จ.นครราชสีมา ครั้งนี้มาได้แล้วรวม 10 ราย แล้ว และ ยังมีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับไปแล้วยังหลบหนีอยู่ อีก 2 ราย คือ นายโต ไม่ทราบชื่อ - สกุลจริง ที่ทำหน้าที่นำอุปกรณ์มาส่งให้ผู้สมัครสอบ พร้อมกับแนะนำสาธิตวิธีการใช้งาน และ ผู้ต้องหารายสำคัญ คือ นายวิบูลย์ศักดิ์ แสนจักร์ ชาวจังหวัดลำปาง ที่เป็นตัวเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งหมด ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีกระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ โดยทำหน้าที่ถ่ายทอดคำสั่งแนวทางปฏิบัติการมาจากตัวการใหญ่อีกทอด
“มั่นใจว่าหากสามารถติดตามตัว นายวิบูลย์ศักดิ์ มาได้แล้วจะสามารถคลี่คลายคดีและจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการนี้ได้ทั้งหมดอย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้ได้มีการประสานงานกับทางสถานีตำรวจทุกท้องที่ทั่วประเทศ ระดมกำลังเพื่อให้ติดตามจับกุมตัวนายวิบูลย์ศักดิ์ ให้ได้โดยเร็วที่สุด แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีวี่แววของนายวิบูลศักดิ์ เลย ดังนั้นจึงอยากฝากถึงประชาชนให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบตัวคนร้าย หรือทราบเบาะแสให้แจ้งตำรวจได้ทันที ที่หมายเลข 191 หรือ ตำรวจในท้องที่” พล.ต.ต.จักรทิพย์ กล่าว
