บุรีรัมย์- แกนนำและสมาชิกกลุ่ม ผรท. อีสาน 500 คน สุมหัวที่บุรีรัมย์ ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดและจะไม่เคลื่อนไหวทางการเมืองร่วมกับกลุ่มใด อ้างมีผู้ชุมนุมบางกลุ่มใช้ชื่อ ผรท.เคลื่อนไหวคัดค้านการลงชื่อถอดถอนตุลาการศาล รธน. เผยเห็นด้วยกับ พ.ร.บ.ปรองดองล้างผิด “นช.แม้ว” เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง เผยกำลังแบมือขอเงินชดเชยจากรัฐบาล รายละ 6.5 แสน
หลังจากที่ วานนี้ (15 มิ.ย.) กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) อีสาน 20 จังหวัด กว่า 7,000 คน ได้ชุมนุมเพื่อแสดงพลังปกป้องสถาบันตุลาการ ที่ศาลาพิธีสนามทุ่งศรีเมือง อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยเรียกร้องให้นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช.และพวก ยุติการล่ารายชื่อเครือข่ายคนเสื้อแดง เพื่อยื่นถอดถอนคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแล้วนั้น วันนี้ เมื่อเวลา 11.00 น. แกนนำและสมาชิกก ผรท.อีกกลุ่มหนึ่งซึ่งอ้างเป็นตัวแทน ผรท.จาก 20 จังหวัดภาคอีสาน ประมาณ 500 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันที่ศาลากลางหมู่บ้าน บ้านโคกไม้แดงหัวกระสัง ต.หูทำนบ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ เพื่อแสดงพลังออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด จะขอวางตัวเป็นกลางไม่เข้าข้างกลุ่มการเมืองใดกลุ่มการเมืองหนึ่งและจะไม่เคลื่อนไหวทางการเมืองร่วมกับกลุ่มการเมืองใดพร้อมจะสนับสนุนทุกรัฐบาลที่ปกครองบ้านเมืองตามระบอบประชาธิปไตย
ทั้งนี้ สืบเนื่อง จากได้มีผู้ชุมนุมบางกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหว ที่ จ.ขอนแก่น และ จ.อุดรธานี เรื่อง คัดค้านการลงชื่อถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้ใช้ชื่อของกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยภาคอีสาน (ผรท.) ในการเคลื่อนไหวดังกล่าวด้วย จึงทำให้ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยหลายจังหวัดที่ไม่ได้ร่วมการเคลื่อนไหวไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะ ผรท. 6 กลุ่ม ใน 15 จังหวัด ที่มีสมาชิกกว่า 50,000 คน ซึ่งกำลังยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลตามนโยบาย 66/2523 เป็นเงินชดเชยรายละ 650,000 บาท ที่ไม่ได้มีส่วนร่วมชุมนุมจึงต้องออกมาแสดงพลังไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว
ด้าน นายละเอียด รัตนศรี หรือ “สหายอ๊อด” ประธานกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยภาคอีสาน กล่าวว่า การที่แกนนำและสมาชิกกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยภาคอีสาน ได้รวมพลังออกมาแสดงจุดยืนในครั้งนี้ ก็เพราะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของบุคคลบางกลุ่ม ที่แอบอ้างชื่อของ ผรท.ภาคอีสาน เคลื่อนไหวคัดค้านการลงชื่อถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งยืนยันว่า ผรท.จะไม่ร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มการเมืองใดทั้งสิ้น โดยความขัดแย้งทางการเมืองก็ควรจะแก้ไขด้วยการเมือง
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวตนเห็นด้วยกับ พ.ร.บ.ปรองดอง เพราะเชื่อว่าจะทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข ลดความขัดแย้งซึ่งกันและกันได้