อุตรดิตถ์ - เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 6 นำกำลังเข้าจับกุมแผงขายฉลากเรียงเบอร์ที่มีทั้ง เงินสด สุรา ใส่ถุงวางไว้หน้าร้านให้ลูกค้ามองเห็นและไว้ล่อใจให้กับผู้ที่อยากเสี่ยงโชค ในจังหวัดอุตรดิตถ์มีอยู่เกือบทุกท้องที่ แต่กำลังชุดจับมีน้อยจึงสามารถจับกุมได้เพียง 5 ราย ได้ฉลากเรียงเบอร์ 15 ชุด แผงรางวัลอีก 10 แผง
เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 6 นำโดย พ.ต.อ.เด่น ทองศรีจันทร์ ผกก.สส.3บก.สส.ภ.6 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 6 รวม 10 นาย เข้าทำการจับกุมกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า ที่นำแผงฉลากเรียงเบอร์มาวางขายตามหน้าร้าน เช่น ร้านอาหารในเขตตัวเมืองอุตรดิตถ์ และตามตลาดสดอำเภอใกล้เคียง ซึ่งมีแขวนโชว์ให้เห็น
จุดแรกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมที่ร้านขายของชำบริเวณสี่แยกบ้านบุ่งวังงิ้ว ติดกับวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งเขตอำเภอเมือง พบแผงฉลาก 2 แผงห้อยไว้อยู่ติดๆกัน โดยแต่ละแผงมีขวดสุรายี่ห้อดังต่างๆมาใส่ถุงเย็บติดไว้ รวมทั้งเงินสดใบละ 100 และ 500 บาท เป็นของรางวัล ต่อมามีนายมานพ สังฆพร อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 123 หมู่ที่ 8 ตำบลป่าเซ่า รับว่า แผงดังกล่าวเป็นของตน 1 แผง ส่วนอีก 1 แผง เป็นของนายราเชน ม่วงนา อายุ 39 ปี
ร้านที่ 2 ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับร้านแรกมากนัก พบแผงฉลากชนิดเดียวกัน 1 แผง โดยที่หัวแผงระบุว่าชื่อ ฟ้าฮ่าม มีเบอร์โทรศัพท์เขียนปิดไว้ที่หัวแผง 081-7853265 ต่อมานายกฤษณรงค์ ดิษฐประเสริฐ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/3 หมู่ที่ 3 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง รับว่า แผงดังกล่าวเป็นของตนเอง
ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังสอบถามรายละเอียดอยู่นั้นได้มีนางบุหงา ศรีโยธิน อายุ 70 ปี เข้ามาพบเจ้าหน้าที่และกล่าวว่าร้านดังกล่าวเป็นร้านของตน โดยเปิดขายอาหารตามสั่งให้กับเด็กนักศึกษาที่อยู่ใกล้ๆ ส่วนฉลากนั้นลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นนักศึกษา เมื่อแวะมากินข้าวกันแล้วก็จะจับฉลาก
ฉลาก 1 ใบ ราคา 2 บาท ส่วนเปอร์เซ็นต์ที่เจ้าของแผงแบ่งให้คือ ร้อยละ 20 บาท แต่ละแผงหากขายได้หมดจะได้เงิน 4,000 บาท และตนก็จะได้ส่วนของเปอร์เซ็นต์ 800 บาท ด้านเจ้าของที่นำมาให้ขายนั้นทราบว่าอยู่ ที่อำเภอลับแล ไม่ทราบชื่อจริงมีแต่เบอร์โทรที่ให้ไว้บนหัวแผง
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกชุดได้เข้าจับกุมฉลากชนิดเดียวกันที่ตลาดสดทุ่งยั้ง หมู่ที่ 3 อำเภอลับแล พบที่ร้านขายของชำมีแผงฉลากจำนวน 3 แผง และแผงฉลากรางวัล อีก 3 แผง (แผงลอยในตลาด) โดยลูกค้าก็เป็นแม่ค้าด้วยกันกำลังแทงอยู่ ซึ่งมีนางปิยาพร มีพิน อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 242 หมู่ที่ 3 ตำบลแม่พูล อำเภอลับแล รับว่า แผงดังกล่าวเป็นของตน
ใกล้ๆกันนั่นเอง เจ้าหน้าที่มองเห็นกลุ่มคนกำลังแทงฉลากกันอยู่ในร้าน เมื่อเจ้าหน้าที่เดินเข้าไปตรวจสอบพบว่า มีแผงฉลากจำนวน 9 แผง (เรียงเบอร์) และแผงรางวัล อีกจำนวน 7 แผง ต่อมามีนายอลงกรณ์ มีจันทร์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/5 หมู่ที่ 2 ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล ที่เป็นเจ้าของร้าน รับว่าแผงดังกล่าวตนเป็นเจ้าของ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหา 2 คนหลัง ส่ง พ.ต.ท.วิบูรณ์ ยอดชำนาญ สว.ส.สภ.ด่านแม่คำมัน ดำเนินคดีข้อหาจัดให้มีการเล่นการพนัน (จับฉลากด้วยวิธีการใดๆ) พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้การจับฉลาก ส่วนผู้ต้อง 3รายแรกนั้น นำตัวส่ง สภ.เมืองอุตรดิตถ์
แหล่งข่าวเปิดเผยต่อว่า การขายฉลากเรียงเบอร์ - แผงรางวัลดังกล่าวนี้ หากแผงใดมีลูกค้าเยอะๆ วันหนึ่งวันหนึ่งจะขายเรียงเบอร์ได้ประมาณวันละ 4-5 แผงต่อราย ซึ่งจะสร้างรายได้ให้ทั้งเจ้าของแผงและผู้รับเอาเปอร์เซ็นต์ จะได้เงินจำนวนมาก ซึ่งแผงฉลากดังกล่าวกำลังเป็นที่ระบาดไปเกือบทุกจังหวัดในภาคเหนือโดยเฉพาะแผงฉลากที่มีชื่อว่ากระต่ายทอง ที่มีเจ้าของเป็นอดีตทนายความ และได้บอกแก่ลูกค้าว่า เคลียร์กับเจ้าหน้าที่แล้ว จะไม่มีใครกล้าจับ ซึ่งแพงฉลากชื่อนี้มีวางจำหน่ายอยู่ในหลายจังหวัดตั้งแต่จังหวัดอุตรดิตถ์ขึ้นไปจนถึงจังหวัดพะเยา
