พิจิตร - ส.ส.เพื่อไทย พร้อมรองผู้ว่าฯ พิจิตรลงพื้นที่ดูน้ำท่วมเขตลุ่มน้ำยม ประกาศพื้นที่อำเภอสามง่ามเป็นพื้นที่ภัยพิบัติจากอุทกภัย ขณะที่ชาวบ้านระดมเครื่องสูบน้ำหวังกู้สถานการณ์ ร้องขอชลประทานส่งเครื่องสูบน้ำเข้าช่วยอีกแรง ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 31 นำกำลัง 14 นายช่วยชาวบ้านขนของหนีน้ำ
วันนี้ (15 มิ.ย.) น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร คณะกรรมาธิการติดตามแก้ปัญหาอุทกภัยและดินโคลนถล่ม สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม บริเวณบ้านปากคลอง หมู่ที่ 11 และหมู่ที่ 6 ตำบลรังนก อำเภอสามง่าม พบว่า ระดับน้ำที่ไหลผ่านพื้นที่ตำบลรังนกซึ่งเป็นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำในแม่น้ำยมมีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อัตราการไหล 130 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่จุดวัด Y-17 อยู่ที่ 3.56 เมตร ประกอบกับมีน้ำป่าและน้ำฝนจากด้านอำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชร ไหลบ่าสมทบอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดมวลน้ำดังกล่าวได้ไหลท่วมบ้านเรือนประชาชน 2 หมู่บ้าน คือหมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 11 จำนวนกว่า 100 หลังคาเรือน และพื้นที่นาข้าวของชาวนาที่อีก 15 วันจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้นั้นถูกน้ำท่วมจำนวน 12,000 ไร่
โดยวันนี้จังหวัดพิจิตรได้ประกาศพื้นที่อำเภอสามง่ามเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากอุทกภัยแล้ว 1 อำเภอ พร้อมทั้งสั่งระดมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จากชลประทานจังหวัดพิจิตรจำนวน 12 เครื่องเร่งติดตั้งสูบน้ำออกจากพื้นที่นาข้าวเพื่อเป็นการช่วยเหลือชาวนาก่อนที่จะถูกน้ำท่วมใหญ่
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.เนรมิตร ดุสิตตากร ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 31 ค่ายเจ้าพระยาจักรี จังหวัดพิษณุโลก ระดมกำลังพลจำนวน 14 นายพร้อมอุปกรณ์เครื่องมือช่วยเหลือเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของผู้ประสบภัยน้ำท่วมให้ไปอยู่ในที่ปลอดภัย และยังได้ช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยด้วยการเฝ้าเครื่องสูบน้ำของชาวนาที่นำมาระดมสูบน้ำออกจากนานับร้อยเครื่องที่เรียงรายอยู่ข้างถนนไม่ให้ถูกโจรขโมยมาลักทรัพย์อีกด้วย เป็นการสร้างความอุ่นใจให้ราษฎรอีกช่องทางหนึ่ง