ชาวนาเมืองน้ำดำแฉแก้มลิงร้อยล้านส่อผลาญงบ ขอส่งตัวแทนร่วมตรวจสอบ

กาฬสินธุ์ - แฉภาษี 115 ล้านสร้างแก้มลิง “กมลาไสย” ส่อผลาญงบ ชาวบ้านระบุผู้รับเหมาทำงานไม่คุ้มภาษี ร้องขอทางจังหวัดให้ตั้งตัวแทนในพื้นที่หมู่บ้านละ 20 คนร่วมตรวจสอบ ชี้งานรับเหมาหนองน้ำเป็นงานขุดขนที่ต้องตักดินออกหลายหมื่นเที่ยว แต่กลับไม่เห็นมีการขนดินออกมาแม้แต่เที่ยวเดียว

กรณี นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ 3 โครงการแก้มลิงในพื้นที่ อ.กมลาไสย งบประมาณกว่า 115 ล้านบาท ซึ่งได้รับการจัดสรรงบจากรัฐบาลในโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองอีจ่อย งบประมาณ 39,991,000 บาท, หนองน้ำบึงอีดก งบประมาณ 49,972,000 บาท อยู่ในพื้นที่ ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ และโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองบึงอ้อ ในพื้นที่ ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ งบประมาณ 25,991,000 บาท ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ

แต่ชาวนาผู้ใช้ประโยชน์เกรงว่าการทำงานจะไม่โปร่งใสและทำให้เงินภาษีของประชาชนสูญเปล่า จากนั้น นายนิพนธ์ ศรีธเรศ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 5 พรรคเพื่อไทย กรรมาธิการงบประมาณ ได้ขอความร่วมมือให้ทางจังหวัดได้รายงานผลความคืบหน้าในการก่อสร้างเป็นระยะเพื่อให้การก่อสร้างประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด

นายสิงห์ อรัญสาร ผู้ใหญ่บ้านดอนหวาย หมู่ที่ 17 ตำบลดงลิง อำเภอกมลาไสย กล่าวว่า งบที่รัฐบาลจัดสรรมาให้นับว่ามีประโยชน์เพราะแนวทางการจัดทำแก้มลิงจะสามารถกักเก็บน้ำได้กว่า 2 ล้าน ลบ.ม.แต่เท่าที่ติดตามก็พบว่าการรับเหมาแทนที่จะมีเพียงเอกชนที่เป็นผู้รับเหมาโครงการ กลับมีรถแบ็กโฮของทางเทศบาลตำบลดงลิงเข้าไปร่วมทำงานด้วย

เมื่อถามว่าเข้าไปทำได้อย่างไร คำตอบที่ได้ก็บอกว่าการเข้าทำงานเป็นไปตามมติของสภาที่ได้นำรถของทางเทศบาลตำบลเข้าไปเป็นรถร่วมในการรับจ้าง

“เรื่องนี้ตนไม่ทราบเพราะไม่ใช่นักการเมือง แต่ก็ทำให้ชาวบ้านเกิดความแคลงใจว่า ก็ในเมื่อทางเทศบาลตำบลดงลิงจะต้องเป็นผู้ร่วมตรวจงานด้วย แต่กลับพบว่ามีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปร่วมทำงาน แล้วเม็ดงานที่ได้จะได้ตรงตามเป้าหมายจริงหรือ จึงเกรงว่าจะมีการรู้เห็นในการตรวจสอบโครงการรึเปล่า จึงต้องการให้ทางจังหวัดได้เข้ามาดูแลในเรื่องนี้ด้วย”

ผู้ใหญ่บ้านคนเดิมยังระบุอีกว่า ถึงแม้ชาวนาจะไม่มีความรู้เรื่องรับเหมา แต่เท่าที่ทราบและถามผู้รู้เรื่องรับเหมาว่าการขุดหนองน้ำนั้นจะต้องมีการขนดินออกไปทิ้ง ซึ่งในงบประมาณมากขนาดนี้ทั้ง 3 โครงการกว่าร้อยล้านบาทจะต้องขนดินไปทิ้งหลายหมื่นเที่ยว

อย่างไรก็ตาม เท่าที่ได้ติดตามดูมา ก็ไม่เห็นว่าผู้รับจ้างจะทำการขนดินไปทิ้งที่อื่น มีแต่ใช้รถขุดเหวี่ยงไปมาทำให้เกิดคันดินสูงและสูงจากท้องนามากเกือบ 4 เมตร จึงหวั่นว่าในส่วนของระบบการวางท่อที่จะรับน้ำหลากจากท้องนา ท่อน้ำจะสูงกว่าพื้นดิน และเมื่อมีน้ำไหลเข้ามาก็จะทำให้เกิดน้ำท่วมเหมือนเดิม

เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดขึ้น จึงต้องการให้จังหวัดได้ตั้งตัวแทนชาวนาผู้รับประโยชน์ทุกหมู่บ้านละ 20 คน ร่วมติดตามตรวจสอบ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ตรวจงานได้อธิบายถึงแนวทางการตรวจรับงานอย่างละเอียด เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริตด้วย