ชิงนายก อบจ.อุดรฯ กลิ่นทุจริตฟุ้ง ทั้งซื้อเสียงล่วงหน้า ใช้อำนาจรัฐเอื้อผู้สมัครบางราย

อุดรธานี - หาเสียงโค้งสุดท้ายชิงเก้าอี้นายก-ส.อบจ.อุดรธานีเดือดและส่อเค้าไม่สุจริต เพราะผู้สมัครบางรายอาศัยอำนาจรัฐข่มขู่ทีมงานหาเสียงผู้สมัครคู่แข่ง พร้อมทั้งทุ่มเงินซื้อเสียงล่วงหน้าไปแล้ว 500-1,000 บาท คาดเงินสะพัดหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ขณะที่มีรายงานว่านายตำรวจใหญ่ในภาค 4 สั่งระดมกำลังตำรวจลงพื้นที่ช่วยอำนวยความสะดวกหาเสียงให้ “วิเชียร ขาวขำ” เป็นพิเศษ

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) อุดรธานี และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) อุดรธานี ทั้ง 20 อำเภอในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง 17 มิถุนายน 55 นี้ ว่าเป็นไปอย่างคึกคัก

โดยผู้สมัครแต่ละคนออกตระเวนหาเสียงกับประชาชนตามหมู่บ้าน ตำบล พร้อมจัดทีมงานออกไปติดโปสเตอร์หาเสียงตามที่ต่างๆ และมีรถตระเวนหาเสียงตลอดทั้งวัน

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันชิงเก้าอี้นายก อบจ.อุดรธานี และ ส.อบจ.อุดรธานี ครั้งนี้เริ่มส่อเค้าจะไม่สุจริต เนื่องจากผู้สมัครบางรายมีการใช้อำนาจรัฐเข้ามากดขี่คุกคามผู้สมัครและทีมงานหาเสียงของคู่แข่งในบางพื้นที่

รวมทั้งมีกระแสข่าวการทุ่มเงินซื้อเสียงล่วงหน้าแล้วในหลายพื้นที่ โดยใช้แกนนำจัดตั้งเป็นหัวคะแนนในหมู่บ้าน แล้วแต่หมู่บ้านเล็กใหญ่ เบื้องต้นจ่ายหัวละ 500-1,000 บาท

นอกจากนี้ ตามรายงานของธนาคารพาณิชย์หลายแห่งในจังหวัดอุดรธานี หลายเดือนที่ผ่านมามีคนเข้ามาแลกเปลี่ยนเงินจำนวนมาก โดยเจาะจงขอแลกเฉพาะธนบัตรฉบับละ 100 บาท และ 500 บาท มียอดการแลกเงินตั้งแต่หลักแสนบาทขึ้นไป ซึ่งคาดว่าจะมีกระแสเงินสะพัดในสนามเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานีในรูปแบบต่างๆ ช่วงนี้ไม่ต่ำกว่า 200-300 ล้านบาท

พ.ต.อ.สมเกียรติ เกิดจงรักษ์ ประธาน กกต.ประจำ อบจ.อุดรธานี กล่าวว่า ขณะนี้ทาง กกต.อบจ.ได้มีการเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งในวันที่ 17 มิถุนายน 55 เอาไว้แล้ว โดยจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ผสมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด. ในการดูแลความสงบเรียบร้อยประมาณ 3,000 นาย

ทั้งนี้ ทาง ผบช.ตำรวจภูธรภาค 4 ได้กำชับเรื่องของความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชนทั้งก่อน และหลังการเลือกตั้ง

กระนั้นก็ตาม แหล่งข่าวที่ไม่ขอเปิดเผยนามบอกผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 11-17 มิถุนายน 55 ได้มีคำสั่งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงของตำรวจภูธรภาค 4 สั่งให้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก 11 จังหวัดของอีสานตอนบนเข้ามาปฏิบัติภารกิจลับ (ว.5) เกี่ยวกับการเลือกตั้งในจังหวัดอุดรธานี โดยให้อำนวยความสะดวกแก่นายวิเชียร ขาวขำ

พร้อมทั้งสั่งให้ติดตามผู้สมัครพร้อมหัวคะแนนของนายหาญชัย ฑีฆธนานนท์ นางสาวกีรติการณ์ พิมานเมฆินทร์ และนายสุรชาติ ชำนาญศิลป์ คู่แข่งของนายวิเชียร อย่างไม่ให้ละสายตา และให้รายงานความเคลื่อนไหวตลอดเวลา

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาปฏิบัติงานครั้งนี้อ้างว่า เพื่อป้องกันการทุจริตการซื้อสิทธิขายเสียง