xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนา “บางระกำโมเดล” ซวยซ้ำ-น้ำทะลักก่อน “ปู” ลงพื้นที่ ต้องเกี่ยวข้าวเขียวขายขาดทุนยับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พิษณุโลก - “ปู-ยิ่งลักษณ์” ทัวร์ซ้ำ “บางระกำโมเดล” 13 มิถุนายนนี้ หลังส่ง รมต.ประจำสำนักนายกฯ ตรวจล่วงหน้า ขณะที่ชาวนาบางระกำกลับซวยซ้ำซ้อนอีกปี ต้องเกี่ยวข้าวเขียวหนีน้ำท่วม ขาดทุนยับหมดโอกาสจำนำข้าวเปลือก เหตุน้ำล้นจาก “คลองเกตุ คลองกล่ำ” ที่ชลประทานกำลังขุดลอกเอ่อท่วมทั้งเวิ้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพิษณุโลกว่า ตามกำหนดการทัวร์นกขมิ้นปีนี้ (2555) ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมจากปลายน้ำ กลางน้ำ และต้นน้ำ เบื้องต้นระหว่าง 11-14 มิถุนายน 55 นั้น หลังตรวจงาน จ.สิงห์บุรี และพักค้างที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เช้าวันที่ 13 มิถุนายน 55 จะออกเดินทางจากเขื่อนเจ้าพระยา เดินทางด้วยขบวนรถยนต์ระยะทาง 200 กม. ไปติดตามการขุดลอกคูคลองแก้ปัญหาน้ำท่วมถึงคลองเมม และงานขุดลอกบึงขี้แล้ง อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก จากนั้นจะเดินทางต่อไปยัง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย และเดินทางต่อไปที่เขื่อนภูมิพล จ.ตาก ค้างแรม และขึ้นเชียงใหม่ต่อไป

ขณะที่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินงานป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัยระยะเร่งด่วน การขุดลอกบึงขี้แร้ง พื้นที่ ต.บางระกำ อ.บางระกำ 1 ใน 3 บึงหลักที่จะทำการขุดลอกคือ บึงระมาณ บึงขี้แร้ง และบึงตะเคร็ง รวมพื้นที่ 3,217 ไร่ งบประมาณ 629 ล้านบาท ที่หากดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถรองรับน้ำในลุ่มน้ำยม 32 ล้าน ลบ.ม.

นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า ตรวจงานโครงการแก้มลิงทั้ง 3 บึงเพราะลุ่มน้ำยมไม่มีเขื่อน ต้นน้ำยมจะมีขนาดกว้างรับน้ำได้ปริมาณมาก แต่ปลายน้ำลงมาที่ จ.สุโขทัย พิษณุโลก และ จ.พิจิตร มีลักษณะเป็นคอขวดทำให้น้ำหลากท่วมเป็นประจำทุกปี ประกอบกับแหล่งกักเก็บน้ำห้วย หนอง คลอง บึง ก็ตื้นเขิน รัฐบาลจึงมีนโยบายให้มีการขุดลอกพื้นที่แหล่งน้ำธรรมชาติให้เป็นแก้มลิง

อย่างไรก็ตาม ขณะที่นายกรัฐมนตรีผู้ดำริ “บางระกำโมเดล” แก้ปัญหาน้ำท่วม กำลังจะเดินทางมาตรวจความคืบหน้าโครงการนั้น ล่าสุดชาวบางระกำก็จำต้องเร่งเกี่ยวข้าวหนีน้ำท่วมซ้ำซากกันอีกครั้ง เพราะน้ำในคลองเกตุซึ่งเป็นหนึ่งในหลายคลองที่ชลประทานกำลังขุดลอก ตามโครงการบางระกำโมเดลกำลังล้นตลิ่ง ทำให้น้ำท่วมนากว่า 2,000 ไร่ เจ้าของนาต้องตัดใจยอมเกี่ยวข้าวเขียวขายในราคาตันละ 4,600 บาทหวังคืนทุนบ้าง ขณะที่โครงการรับจำนำข้าวเปลือกให้สูงกว่าตันละ 9,000 บาท ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้รับเงินเมื่อใด

นายธวิทย์ เหลือสิงบุญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้าน ตะแบกงาม ต.ชุมแสงสงคราม กล่าวว่า ปีนี้น้ำเหนือมาเร็ว ทำให้น้ำในคลองเกตุ คลองกล่ำ ที่ทางกรมชลประทานกำลังขุดลอกตามแนวทาง “บางระกำโมเดล” ยังไม่แล้วเสร็จ เหลือเพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น ก็ถูกน้ำไหลเข้าเต็มคลองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และปริมาณน้ำก็ได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่นาของชาวบ้านนับ 100 ราย เดือดร้อนกันทั่ว จนต้องเร่งเกี่ยวข้าวก่อนกำหนดร่วมครึ่งเดือน

“ข้าวที่เกี่ยวกันนี้ยังเขียวอยู่ ขายก็ไม่ได้ราคาอยู่แล้ว แต่ก็ต้องเกี่ยว”

น.ส.เสาวลักษณ์ ทองรอด เกษตรกรหมู่ 9 กล่าวว่า ตนทำนากว่า 70 ไร่ แต่ขณะนี้น้ำจากคลองเกตุ คลองกล่ำ ล้นตลิ่งท่วมนาหมด ต้องลงทุนจ้างรถแบ็กโฮมาทำคันกั้นน้ำเข้านาให้สูงขึ้นอีก หมดเงินกว่า 10,000 บาท แต่ก็ไม่สามารถกั้นน้ำอยู่ได้ต้องเร่งสูบน้ำออกจากนาแล้วเกี่ยวข้าวที่เขียวอยู่นี้ไปขายให้โรงสี โดยที่ได้ราคาเพียงตันละ 4,600 บาทเท่านั้น ซึ่งลักษณะนี้ถ้าเข้าร่วมโครงการรับจำนำ หรือขายฝาก ก็จะได้เพียงตันละ 9,000 บาท ตนจึงต้องขายสดดีกว่า เพราะได้เงินเร็ว พอได้ทุนคืนมาบ้างแม้ว่าจะขายขาดทุนก็ตาม




กำลังโหลดความคิดเห็น