วธน.ชลบุรี สัมมนาผู้ประกอบการร้านเกม เรียกจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม

ศูนย์ข่าวศรีราชา-วัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี จัดสัมมนาผู้ประกอบกิจการร้านเกม เรียกจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ตัดวงจรอาชญากรรม

นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาผู้ประกอบกิจการตามพระราชบัญญัติภาพยนตร์ และวิดีทัศน์ พ.ศ.2551 ร้านเกมที่ศาลาเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดชลบุรี โดยมีตัวแทนผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง

สืบเนื่องจาก พระราชบัญญัติภาพยนตร์และวิดีทัศน์ พ.ศ.2551 กำหนดให้ผู้ที่จัดตั้ง หรือประกอบกิจการร้านวิดีทัศน์โดยทำเป็นธุรกิจ หรือได้รับประโยชน์ตอบแทน ต้องได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน รวมทั้งกำหนดให้ต้องประกอบกิจการในวัน เวลา และเงื่อนไขทีกำหนด ตามกฎกระทรวงว่าด้วยการอนุญาต และการประกอบกิจการร้านวีดิทัศน์ พ.ศ.2552

ในปัจจุบัน จังหวัดชลบุรีมีปัญหาเรื่องการมั่วสุมของเด็กและเยาวชนในสถานบริการและสถานประกอบกิจการ โดยเฉพาะสถานประกอบกิจการร้านเกม หรืออินเทอร์เน็ต ซึ่งขณะนี้มีจำนวนสถานประกอบกิจการเพิ่มขึ้นอย่างมากในทุกๆ พื้นที่ และจากการที่มีการร้องเรียนจากประชาชน และการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบปัญหามากมายที่เกิดขึ้นในสถานประกอบกิจการ เช่น ปัญหาการพนัน การมั่วสุมเสพยาเสพติด และมั่วสุขทางเพศภายในร้าน ซึ่งในบางร้านปัญหาเกิดจากผู้ประกอบกิจการไม่มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม และละเมิดกฎหมาย

ด้วยเหตุนี้ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี ในฐานะผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติและวิดีทัศน์ พ.ศ.2551 ได้จัดโครงการประชุมสัมมนาผู้ประกอบกิจการตามพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวิดีทัศน์ พ.ศ.2551 (ร้านเกมส์) จังหวัดชลบุรีขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบกิจการร้านวิดีทัศน์ (ร้านเกมส์) ในจังหวัดชลบุรีมีความรู้ความเข้าใจ และมีแนวทางการประกอบกิจการที่ถูกต้องตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด และสนองนโยบายการจัดระเบียบสังคมของจังหวัดชลบุรี

โดยได้เชิญวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.ท.ดร.อภิรัฐ พุ่มกุมาร รองผู้กำกับการปฏิบัติราชการสำนักงานผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาบรรยายในหัวข้อ มิติมุมมองใหม่ ร่วมเฝ้าระวังเชิงวัฒนธรรม รวมพลังเครือข่ายผู้ประกอบกิจการร้านเกมส์ หรืออินเทอร์เน็ต

ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า จากสภาวการณ์ของสังคมไทยในปัจจุบัน เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามา มีบทบาทสำคัญในสังคมทุกระดับ เนื่องจากเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ช่วยให้การติดต่อสื่อสารได้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ประหยัดเวลา แต่ถ้าผู้ใช้ไม่สามารถรู้เท่าทัน ไม่มีภูมิคุ้มกัน

การนำมาใช้ก็จะก่อให้เกิดพิษภัย และเป็นปัญหาร้ายแรงต่อสังคมไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาความเบี่ยงเบนทางวัฒนธรรมเชิงลบของเด็ก เยาวชน และประชาชน ที่ใช้บริการอยู่สถานประกอบกิจการที่มีสื่อเทคโนโลยีไว้บริการ เช่น ร้านเกมส์ หรืออินเทอร์เน็ต ร้านคาราโอเกาะ เป็นต้น

ปัจจุบัน มีสถานประกอบกิจการดังกล่าว ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยให้บริการลูกค้าอย่างถูกไม่ต้องตามระเบียบข้อบังคับของทางราชการ ปล่อยให้เด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่าเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดไว้เข้าใช้บริการ และบางร้านมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และการค้าประเวณี

เป็นปัญหาสังคมที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือในการเร่งแก้ไข และป้องกันปัญหา ซึ่งถ้าหากสามารถพัฒนาสถานประกอบกิจการเหล่านี้ให้เป็นสถานประกอบกิจการที่ดี เป็นแหล่งเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนในการใช้สื่อเทคโนโลยี เพื่อสร้างความรู้ สร้างทักษะ และสามารถมาใช้ในการต่อยอดองค์ความรู้ที่ได้จากห้องเรียน รวมทั้งการเชื่อมโยงความรู้กับสังคมท้องถิ่น และสังคมโลกก็ย่อมส่งผลดีต่อประเทศชาติในการพัฒนาเด็ก และเยาวชน เพื่อก้าวไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ต่อไป