บุรีรัมย์ - ชนสยอง! รถปิกอัพซิ่งฝ่าสายฝน ถนนลื่นเบรกกะทันหันหมุนคว้างพุ่งข้ามเลนชนประสานงารถเก๋งเมียตำรวจที่ขับมาพร้อมลูกสาว 2 คนที่วิ่งสวนทางมาอัดก๊อบปี้พังยับทั้งคัน เป็นเหตุให้เมียตำรวจเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกสาวบาดเจ็บสาหัส 2 ราย
เมื่อคืนนี้ (30 พ.ค.) เวลา 19.10 น. ร.ต.อ.วุฒิพงษ์ ปานาลาด ร้อยเวร สภ.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถปิกอัพชนประสานงากับรถยนต์เก๋ง ที่บ้านหนองตาหล่า หมู่ 7 ต.แสลงพัน อ.ลำปลายมาศ ถนนสายบุรีรัมย์-ลำปลายมาศ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย ซึ่งรถเก๋งถูกรถปิกอัพพุ่งชนพังยับเยินทั้งคัน มีคนเสียชีวิตติดอยู่ในรถ
จึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้ประสานขอความร่วมมือจากโรงพยาบาลลำปลายมาศ, หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์, หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมลำปลายมาศ และหน่วยกู้ชีพ อบต.แสลงพัน พร้อมเครื่องตัดถ่างมาช่วยเพื่อนำคนเจ็บและผู้เสียชีวิตออกมา
ในที่เกิดเหตุบริเวณ กม.18-19 ถ.บุรีรัมย์-ลำปลายมาศ บ้านหนองตาหล่า ต.แสลงพัน อ.ลำปลายมาศ พบชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูสภาพรถเก๋งที่พลิกคว่ำตะแคงตกลงไปในร่องน้ำข้างทางในสภาพพังยับทั้งคัน โดยมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บร้องครวญครางติดอยู่ภายในรถ จำนวน 3 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องช่วยกันนำเครื่องตัดถ่างเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าว รถปิกอัพยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 3439 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมี นายเพิ่มพูน รักษะประโคน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 209/2 ม.9 ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เป็นคนขับมาจาก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ มุ่งหน้ากลับบ้านที่ อ.ประโคนชัย ได้เกิดเสียหลักเนื่องจากฝนตกถนนลื่นทำให้รถปิกอัพพุ่งข้ามเลนชนประสานงากับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า โซลูนา สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กง 6214 บุรีรัมย์ มี นางศรินทิพย์ ปินะการัง ซึ่งเป็นภรรยาของตำรวจสังกัด สภ.เมืองบุรีรัมย์ ขับมาพร้อมกับลูกสาวอีก 2 คน อายุ 6 ขวบ และอายุ 10 ขวบ ซึ่งยังอยู่ในชุดนักเรียน เพื่อจะเดินทางกลับบ้านที่ อ.ลำปลายมาศ ขณะกำลังวิ่งสวนทางมาอย่างจัง
ทำให้ทั้งรถปิกอัพ และรถเก๋งกระเด็นพลิกคว่ำตกลงร่องน้ำข้างทาง เป็นเหตุให้นางศรินทิพย์ ปินะการัง คนขับรถเก๋งถูกอัดก๊อบปี้อยู่ในรถเสียชีวิตทันทีในที่เกิด และลูกสาวอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งมารักษาที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์
โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำผู้เสียชีวิตออกจากตัวรถปิกอัพ นานกว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถนำศพผู้เสียชีวิตออกมาจากที่เกิดเหตุได้ เนื่องจากสภาพรถช่วงเก๋งถูกอัดก๊อบปี้พังยับเยินทั้งคัน ทำให้การสัญจรไปมาบนถนนช่วงนั้นติดขัดยาวเหยียด และต้องใช้ความระมัดระวังเนื่องจากฝนตก
ส่วนนายเพิ่มพูน รักษะประโคน คนขับรถปิกอัพได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย พร้อมกับยอมรับว่าตนได้ขับรถมาคนเดียวเพื่อเดินทางกลับบ้านที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ แต่เมื่อมาถึงบริเวณดังกล่าวซึ่งเป็นช่วงทางโค้ง และเกิดฝนตกหนัก ทำให้ถนนลื่นจึงเบรกรถกะทันหัน และรถหมุนคว้างข้ามเลนไปชนประสานงากับรถเก๋งที่วิ่งสวนทางมาอย่างแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า รถปิกอัพคันดังกล่าวขับมาจาก อ.ลำปลายมาศ มุ่งหน้า จ.บุรีรัมย์ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นช่วงทางโค้ง ประกอบกับฝนตกถนนลื่นจึงเบรกกะทันหันทำให้เสียหลักหมุนคว้างพุ่งข้ามเลนมาชนประสานกับรถเก๋งที่วิ่งสวนทางมาอย่างจัง ทั้งรถปิกอัพ และรถเก๋งเสียหลักพลิกคว่ำตกลงรองน้ำข้างทาง ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตาม จะได้สอบสวนถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงอีกครั้งเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
