ศูนย์ข่าวศรีราชา - นาวิกโยธิน ปิดค่ายบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพทหารกองประจำการ ติดยาเสพติด โดยนำเอาแนวทางหลักสูตรการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดระบบบังคับ บำบัดควบคุมตัวแบบเข้มข้น ทางสายใหม่ของสถาบันธัญญารักษ์ กรมการแพทย์
วันนี้ (30 พ.ค. 55) พลเรือโท พงศ์ศักดิ์ ภูรีโรจน์ ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นประธานปิดโครงการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพทหารกองประจำการที่ติดยาเสพติด รุ่นที่ 2 จำนวน 184 นาย ณ อาคารเอนกประสงค์ ค่ายกรมหลวงชุมพร หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี นายประสงค์ เอี่ยมสุข รองนายกเทศมนตรีตำบลเขตรอุดมศักดิ์ ในฐานะผู้ให้การสนับสนุน พร้อมด้วย ผู้บังคับบัญชาหน่วยขึ้นตรง และข้าราชการ เข้าร่วมในพิธี และแสดงความยินดีกับทหารทุนายที่ผ่านโครงการบำบัดฟื้นฟู
พลเรือตรี ทวี พิกุลทอง เสนาธิการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ในนามของหน่วยปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้ดำเนินงาน กล่าวว่า การดำเนินโครงการ เป็นในลักษณะการฝึกอบรมให้กับทหารกองประจำการที่ถูกตรวจพบว่าเป็นผู้เสพ หรือติดยาเสพติด โดยนำเอาแนวทางหลักสูตรการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดระบบบังคับ บำบัดควบคุมตัวแบบเข้มข้น ทางสายใหม่ของสถาบันธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข มาประยุกต์ใช้ผสมผสานกับการฝึกระเบียบวินัยทหาร มีห้วงการฝึกอบรม 35 วัน
ตลอดระยะเวลาในการฝึกอบรม ทหารกองประจำการที่เข้ารับการบำบัด ได้มีความตั้งใจ ให้ความร่วมมือรับการฝึกอบรม ปฏิบัติตามที่ครูฝึก และวิทยากรแนะนำเป็นอย่างดี ทำให้การฝึกอบรมเป็นไปด้วยความระเบียบ บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ และสมตามเจตนารมณ์ของผู้บังคับบัญชาที่ต้องการให้กำลังพลห่างไกลจากยาเสพติด
พลเรือโท พงศ์ศักดิ์ ภูรีโรจน์ ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กล่าวว่า สถานการณ์ยาเสพติดในปัจจุบันของประเทศ เราถือว่ายู่ในวิกฤติ เนื่องจากมีการแพร่ระบาดอย่างกว้างขวาง และรุนแรงขึ้น ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยหน่วยบัญชาการนาวิโยธิน ได้กำหนดมาตรการในการป้องกัน และปราบรามยาเสพติดในหน่วย พื้นที่พักอาศัย และพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยอย่างเข้มงวด
เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พบว่าทหารกองประจำการที่มารับใช้ชาติในแต่ละผลัด มีสถิติติดยาเสพติดมาก่อนในจำนวนที่ค่อนข้างสูง ซึ่งกำลังพลที่ติดยาเสพติดนี้ นอกจากจะเป็นกำลังพลที่อ่อนแอ และมีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของหน่วยแล้ว ยังเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะถูกชักนำเข้าสู่วงการค้ายาเสพติดได้ง่ายด้วย ซึ่งในการจัดโครงการครั้งนี้ จึงนับเป็นแนวทางที่ดีในการแก้ไขปัญหากับกำลังพลที่เสพ หรือติดยาเสพติด ให้เลิกยาเสพติด และไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดได้อย่างสิ้นเชิง และยั่งยืนอีกด้วย