ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจลำปางรวบแก๊งค้ายาพร้อมยาบ้า 70,000 เม็ดหน้าสถานีรถไฟลำปาง หลังขึ้นมารับยาจากเชียงรายเตรียมขนลงใต้ เผยสั่งยาผ่านเครือข่ายยาบ้าในคุกเชียงราย แถมสงสัยทำมาแล้วหลายครั้ง เหตุชำนาญทาง-ใช้เส้นทางหนีด่านตรวจ ด้าน ป.ป.ส.ระบุ เตรียมเดินหน้าค้นคุก 8 จ.ภาคเหนือกดดันเครือข่ายค้ายา
วันนี้ (20 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่ พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบช.ภ.5 นายวิชัย ไชยมงคล ผอ.ป.ป.ส.ภ.5 พล.ต.ต.พรชัย พักตร์ผ่องศรี ผบก.ภ.จว.ลำปาง และนายสุรชัย จงรักษ์ รองผู้ว่าราชการ จ.ลำปาง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาที่ลักลอบขนยาเสพติดประมาณ 70,000 เม็ด ที่ จ.ลำปาง
การจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.ลำปางสามารถจับกุมผู้ต้องหารวม 4 ราย ประกอบด้วย นายวสันต์ ประทีป ณ ถลาง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/15 ม.4 ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายชานนท์ กลิ่นเกสร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79/352 ม.6 ต.ตลาดขวัญ อ.นนทบุรี จ.นนทบุรี นายวิโรจน์ รามสูร อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จงประจวบคีรีขันธ์ และ น.ส.วาสนา พุ่มเปี่ยม อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/6 ม.5 ต.ท่าตะโก อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์
พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 35 มัด จำนวนประมาณ 70,000 เม็ด รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กท 7553 เชีงราย และโทรศัพท์มือถืออีก 3 เครื่อง
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามดูพฤติการณ์จนทราบว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้จะนำยาบ้าจากพื้นที่ จ.เชียงรายไปส่งให้แก่ผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ภาคกลางของประเทศ ต่อมาเมื่อทราบว่าผู้ต้องหาได้นำยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ จ.ลำปาง จึงได้เข้าจับกุมพร้อมของกลางได้ที่บริเวณลานจอดรถหน้าสถานีรถไฟลำปาง อย่างไรก็ตาม มีผู้ต้องหาสามารถหลบหนีการจับกุมไปได้จำนวน 2 ราย
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวซึ่งพบว่าทำงานอยู่ในสถานบันเทิงที่ จ.ภูเก็ต จะติดต่อสั่งยาเสพติดผ่านเครือข่ายที่อยู่ในเรือนจำ จ.เชียงราย จากนั้น เครือข่ายในเรือนจำจะประสานต่อไปยังเครือข่ายที่อยู่ภายนอกให้จัดเตรียมยาเสพติด ก่อนที่กลุ่มผู้ต้องหาจะเดินทางขึ้นมารับยาเสพติดด้วยตัวเอง แล้วจึงนำยาเสพติที่ได้ลงไปจำหน่ายในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้
ขณะที่การขนยาเสพติดในครั้งนี้คาดว่าผู้ต้องห่าเตรียมที่จะนำขึ้นรถไฟ เพื่อเดินทางลงไปภาคใต้ รวมทั้งพบว่ายาเสพติดซึ่งจะนำลงไปที่ จ.ภูเก็ต น่าจะนำส่งให้แก่ลูกค้าอย่างน้อย 3 ราย เนื่องจากยาบ้าที่ยึดได้มีการจัดแบ่งออกเป็นชุดๆ ไว้ก่อนแล้ว
พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบช.ภ.5 กล่าวว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้น่าจะเคยทำงานในลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากการติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า คนร้ายมีความชำนาญพื้นที่ และเดินทางหลบเลี่ยงเส้นทางที่มีด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอด ด้วยการหันไปใช้เส้นทางผ่านหมู่บ้านแทน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนขยายผลเพื่อติดตามความเชื่อมโยงอื่นๆ รวมทั้งจะออกหมายจับ และเร่งติดตามตัวผู้ต้องหาอีก 2 รายที่ยังหลบหนีอยู่เพื่อนำมาดำเนินคดีต่อไป
ด้านนายวิชัย ไชยมงคล ผอ.ป.ป.ส.ภ.5 กล่าวว่า ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ในครั้งนี้ถือเป็นรายย่อยที่มีพฤติการณ์เดินทางขึ้นมารับยาเสพติดและขนย้ายด้วยตัวเอง โดยสั่งซื้อยาจากเครือข่ายในเรือนจำ จ.เชียงราย ซึ่งจากการตรวจค้น และสืบสวนพบว่า มีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดในเรือนจำ จ.เชียงราย ประมาณ 26 เครือข่าย และจากการตรวจค้นเรือนจำเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น สามารถตรวจยึดโทรศัพท์มือถือได้เป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะมีการดำเนินการเข้าตรวจค้นเรือนจำต่างๆ ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง โดยจะประสานทั้งฝ่ายตำรวจ ฝ่ายปกครอง และทหาร เพื่อเข้าจู่โจมตรวจค้นเพื่อกดดันให้ผู้ต้องหา และเครือข่ายที่อยู่ในเรือนจำไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้
