อุตรดิตถ์ - พ่อเมืองลับแลสั่งสอบแล้ว โรงเรียนอุตรดิตถ์เรียกรับแปะเจี๊ยะ 2 หมื่นผ่านสมาคมผู้ปกครองฯ ขณะที่คนในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ แฉซ้ำมีทั้งหมด 3 แห่ง เป็นโรงเรียนมัธยม 2 ประถม 1 ใครอยากเอาลูกเข้าต้องจ่าย 2-3 หมื่น
วันนี้ (11 พ.ค.) นายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวถึงกรณีโรงเรียนมัธยมศึกษาชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดอุตรดิตถ์เรียกรับเงินจำนวน 20,000 บาทจากผู้ปกครองนักเรียนที่ต้องการให้ลูกหลานเข้าเรียนว่า จะมอบให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 (จ.พิษณุโลก) ซึ่งรับผิดชอบโรงเรียนมัธยมศึกษาของ จ.อุตรดิตถ์ ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร เพราะเรื่องนี้กำลังเป็นกระแสและขัดต่อนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่ห้ามไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับการเข้าเรียน
“จริงๆ แล้วเรื่องนี้ก็บอกกับผู้บริหารสถานศึกษา โดยเฉพาะกลุ่มมัธยมศึกษาไปแล้วว่า ขอให้รับเด็กเข้าเรียนตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ไม่ควรให้มีเรื่องการเรียกรับเงินจากผู้ปกครอง เพราะไม่ต้องการให้ผู้ปกครองเดือดร้อนเรื่องเงิน อยากให้เด็กนักเรียนทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกันในการเข้าเรียน ไม่ควรให้เอาเรื่องผลประโยชน์และเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะจะทำให้เด็กที่ไม่มีเงินไม่สามารถได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่ดีได้” นายโยธินศร์กล่าว
แหล่งข่าวจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จ.อุตรดิตถ์ เขต 1 กล่าวว่า เรื่องการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ปกครองนักเรียนที่ต้องการให้เด็กนักเรียนเข้าเรียนโรงเรียนชั้นนำของจังหวัดมี 3 แห่ง เป็นมัธยมศึกษา 2 แห่ง และระดับประถมศึกษา 1 แห่ง ซึ่งทั้ง 3 แห่งมักจะโยนให้สมาคมผู้ปกครองเป็นผู้ดำเนินการ
หากผู้ปกครองรายใดต้องการให้ลูกเข้าเรียนโรงเรียนทั้ง 3 แห่งก็จะต้องไปลงชื่อ และชำระเงินที่สมาคมผู้ปกครองรายละ 20,000-30,000 บาท และเรื่องนี้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี และไม่มีการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง
“ปีนี้ถือว่าเลวร้ายมากกว่าทุกปี เพราะผู้กำหนดนโยบายคือกระทรวงศึกษาธิการ แต่คนฝากเด็กเข้าเรียนทั้ง 3 แห่งส่วนใหญ่ก็เป็นข้าราชการระดับสูงในจังหวัด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ไปจนถึงรัฐมนตรีกระทรวงหนึ่ง ทำให้ผู้บริหารสถานศึกษาต่างหนักใจกับปัญหานี้ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะหากไม่ดำเนินการก็จะขัดแย้งกับสมาคมและกลุ่มคนที่ฝากเด็กนักเรียน เรื่องนี้อยากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเข้ามาตรวจสอบด้วยตัวเองถึงจะได้รับรู้ความจริงที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร” แหล่งข่าวกล่าว
วันนี้ (11 พ.ค.) นายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวถึงกรณีโรงเรียนมัธยมศึกษาชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดอุตรดิตถ์เรียกรับเงินจำนวน 20,000 บาทจากผู้ปกครองนักเรียนที่ต้องการให้ลูกหลานเข้าเรียนว่า จะมอบให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 (จ.พิษณุโลก) ซึ่งรับผิดชอบโรงเรียนมัธยมศึกษาของ จ.อุตรดิตถ์ ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร เพราะเรื่องนี้กำลังเป็นกระแสและขัดต่อนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่ห้ามไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับการเข้าเรียน
“จริงๆ แล้วเรื่องนี้ก็บอกกับผู้บริหารสถานศึกษา โดยเฉพาะกลุ่มมัธยมศึกษาไปแล้วว่า ขอให้รับเด็กเข้าเรียนตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ไม่ควรให้มีเรื่องการเรียกรับเงินจากผู้ปกครอง เพราะไม่ต้องการให้ผู้ปกครองเดือดร้อนเรื่องเงิน อยากให้เด็กนักเรียนทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกันในการเข้าเรียน ไม่ควรให้เอาเรื่องผลประโยชน์และเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะจะทำให้เด็กที่ไม่มีเงินไม่สามารถได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่ดีได้” นายโยธินศร์กล่าว
แหล่งข่าวจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จ.อุตรดิตถ์ เขต 1 กล่าวว่า เรื่องการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ปกครองนักเรียนที่ต้องการให้เด็กนักเรียนเข้าเรียนโรงเรียนชั้นนำของจังหวัดมี 3 แห่ง เป็นมัธยมศึกษา 2 แห่ง และระดับประถมศึกษา 1 แห่ง ซึ่งทั้ง 3 แห่งมักจะโยนให้สมาคมผู้ปกครองเป็นผู้ดำเนินการ
หากผู้ปกครองรายใดต้องการให้ลูกเข้าเรียนโรงเรียนทั้ง 3 แห่งก็จะต้องไปลงชื่อ และชำระเงินที่สมาคมผู้ปกครองรายละ 20,000-30,000 บาท และเรื่องนี้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี และไม่มีการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง
“ปีนี้ถือว่าเลวร้ายมากกว่าทุกปี เพราะผู้กำหนดนโยบายคือกระทรวงศึกษาธิการ แต่คนฝากเด็กเข้าเรียนทั้ง 3 แห่งส่วนใหญ่ก็เป็นข้าราชการระดับสูงในจังหวัด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ไปจนถึงรัฐมนตรีกระทรวงหนึ่ง ทำให้ผู้บริหารสถานศึกษาต่างหนักใจกับปัญหานี้ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะหากไม่ดำเนินการก็จะขัดแย้งกับสมาคมและกลุ่มคนที่ฝากเด็กนักเรียน เรื่องนี้อยากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเข้ามาตรวจสอบด้วยตัวเองถึงจะได้รับรู้ความจริงที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร” แหล่งข่าวกล่าว