พระนครศรีอยุธยา - “ดิสธร วัชโรทัย” ลงดูพื้นที่พระบรมราชานุสาวรีย์พระสุริโยทัย ทุ่งมะขามหย่อง ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา เตรียมการรับเสด็จพระราชดำเนินของ “ในหลวง” ที่ทุ่งมะขามหย่อง
วันนี้ (10 พ.ค.) นายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประนุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เดินทางมาที่พระบรมราชานุสาวรีย์พระสุริโยทัย ทุ่งมะขามหย่อง ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และชาวบ้านที่มาร่วมซ้อมการแสดงเพื่อถวายในหลวง
นายดิสธร กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงเสด็จฯ มาที่ทุ่งมะขามหย่อง คาดว่า น่าจะหลังจากวันที่ 20 พ.ค.ไปแล้ว แต่ยังไม่มีหมายกำหนดการที่แน่นอน สำหรับการเสด็จพระราชดำเนินในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเปลี่ยนพระอิริยาบถ หลังจากที่ทรงประทับที่โรงพยาบาลศิริราชเป็นเวลานาน ซึ่งประชาชน พระสงฆ์ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต่างมีความปลาบปลื้มปีติ ยินดีที่ในหลวงจะเสด็จฯ ในครั้งนี้
สำหรับวันนี้ เป็นการซักซ้อมการแสดงของชาวบ้านในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เกี่ยวกับริ้วขบวนแห่ของคนและช้าง การซ้อมเรือเพลง ยังไม่มีการซ้อมใหญ่ การซ้อมใหญ่จะมีขึ้นอีกครั้งในวันที่ 20 พ.ค.
ประวัติพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย
สำหรับพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย ตั้งอยู่ที่ทุ่งมะขามหย่อง ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา บนเนื้อที่ 250 ไร่ พื้นที่ดังกล่าวเหมาะสมที่จะสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ เนื่องจากมีความเหมาะสมและสอดคล้องทางประวัติศาสตร์ คือ เป็นสถานที่ทีทำยุทธหัตถี จนสมเด็จพระสุริโยทัย สิ้นพระชนม์บนคอช้าง สภาพพื้นที่เป็นที่ลุ่ม เป็นท้องนา มีเกษตรกรผู้ถือครองพื้นที่จำนวน 64 ราย ทางทิศเหนือยาว 771.0 เมตร จดทุ่งนาราษฎร ใกล้วัดกับวัดบำรุงธรรม ทางทิศใต้ยาว 500.0 เมตร จดทุ่งนาราษฎร สามารถมองเห็นเจดีย์ภูเขาทอง ทิศตะวันออกยาว 640.0 เมตร จดแนวทางสายใหม่บางปะอิน-บางปะหัน ทิศตะวันตกยาว 703.0 เมตร จดถนนคันคลองชลประทานใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา เริ่มศิลาฤกษ์พระบรมราชานุสาวรีย์เมื่อวันที่ 31 ส.ค.2534 โดยจัดสร้างถนนเข้าไปยังพื้นที่วางศิลาฤกษ์ ผิวจราจรเต็มถนนกว้าง 7 เมตร ยาว 260 เมตร และสูงจากระดับพื้นดินเดิม 3 เมตร หรือเท่ากับระดับคันคลองชนประทาน บริเวณลานพิธีวางศิลาฤกษ์ หรือฐานของพระบรมราชานุสาวรีย์ เป็นลานรูปวงกลมเส้นผ่าศูนย์ 75 เมตร สูง 3 เมตร
เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2531 สมัย ฯพณฯ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2531 คณะรัฐมนตรีในสมัยนั้น ได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการจัดสร้าง พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระองค์ท่าน ในฐานะวีรสตรีผู้กล้าในประวัติศาสตร์ไทย โดยได้มอบมายให้กระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รับผิดชอบ มีการแต่งตั้งกรรมการดำเนินการรวม 6 คณะ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ทำให้การดำเนินการจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย หยุดชะงักไปชั่วระยะหนึ่ง จนกระทั่งถึงรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี นายอานันท์ ปันยารชุน และมีพล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในสมัยนั้น ได้มอบหมายให้กรมโยธาธิการ ดำเนินการออกแบบ ร่วมกับสำนักเร่งรัดพัฒนาชนบท พร้อมทั้งนำเรื่องกราบเรียนเพื่อขอความเห็นชอบ
สำหรับรูปแบบของโครงการก่อสร้าง คณะอนุกรรมการฝ่ายออกแบบและก่อสร้างชุดแรก ได้เสนอรูปแบบในวงเงินงบประมาณ 645 ล้านบาท แต่หลังจากที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตร บริเวณพื้นที่โครงการ ทรงพระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับการก่อสร้าง และ การชลประทาน ซึ่งคณอนุกรรมการได้รับทราบ และปรับปรุงแก้ไขรูปแบบโครงการให้สอดคล้องกับแนวพระราชดำริ ซึ่งจะใช้งบประมาณในก่อสร้างประมาณ 270 ล้านบาท นอกจากนี้ รัฐบาลสมัยนั้น ยังได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 273 ล้านบาท เพื่อดำเนินการตามโครงการจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย
สำหรับการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งของราษฎรโดยรอบบริเวณ ได้มีพระราชดำริให้ปลูกต้นยูคาลิปตัส และมะม่วงสามวัย บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงตีเหล็กทำมีด ซึ่งเป็นอาชีพของราษฎรส่วนหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา