อุตรดิตถ์ - เหยื่อโคลนถล่มลับแลร้องตั้งหมู่บ้านมา 6 ปีไร้วี่แวว เผยไม่มีผู้นำต้องช่วยเหลือตัวเอง หลายรายขายสิทธิบ้านน็อกดาวน์ หวนกลับไปสร้างบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยเหมือนเดิม หลังทนปัญหาแล้งไม่ไหว
วันนี้ (8 พ.ค.) นายสอน สังข์ไทย ผู้ประสานงานหมู่บ้านอพยพบ้านม่อนนางแหลม หมู่ที่ 4 ต.ฝายหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า กว่า 6 ปีแล้วที่ชาวบ้านมหาราช หมู่ที่ 11 ต.แม่พูล อ.ลับแล ได้อพยพออกมาจากพื้นที่ดินโคลนถล่มตามคำสั่งอพยพของทางราชการที่ให้มาอาศัยอยู่ที่บ้านม่อนนางแหลม การดูแลช่วยเหลือเรื่องสาธารณูปโภค ไฟฟ้า น้ำประปา ถนน ก็ดีพอสมควร แต่หากเปรียบเทียบกับที่อยู่อาศัยเดิมก็ยังถือว่าแย่อยู่ จึงมีชาวบ้านจำนวนมากที่ขายสิทธิบ้านน็อกดาวน์ให้บุคคลภายนอก บางรายก็กลับไปสร้างบ้านเรือนอยู่ในที่เสี่ยงภัยที่เดิม เพราะทนสภาวะความแห้งแล้ง และไม่มีที่ทำกินที่อุดมสมบูรณ์ไม่ไหว
นายสอนบอกว่า การติดต่อประสานงานของประชาชนในหมู่บ้านอพยพม่อนนางแหลมที่มีอยู่ด้วยกัน 163 หลังคาเรือน มีประชากรราว 400 คนเศษ ต้องติดต่อด้วยตนเองเพราะไม่มีผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และไม่มีสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่มาทำหน้าที่คอยประสานงานให้ นอกจากนี้ งบประมาณที่จะเข้ามาพัฒนาหมู่บ้านก็ไม่เคยเข้ามาเลย หากชาวบ้านไม่ไปขอจากหน่วยงานก็ไม่มีโครงการพัฒนาเข้ามา
“ที่ผ่านมาเคยร้องขอให้อำเภอ จังหวัด แยกหมู่บ้านแต่ก็ไม่เคยได้รับการดูแล หากกระทรวงมหาดไทยได้รับหนังสือของชาวบ้านม่อนนางแหลม ก็อยากให้พิจารณาดำเนินการแยกหมู่บ้านโดยเร็วด้วย” นายสอนกล่าว
