ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - อ.โนนสูงโคราช เอาจริง สนธิกำลังบุกจู่โจมตรวจฉี่พนักงานโรงงาน “จัสท์โมเดิร์น” สาขานครราชสีมา กว่า 500 คน แบบไม่ให้รู้ตัวก่อน หวังตรวจหาสารเสพติด ตามแผน “ปิดประตูตีแมว” แต่ไม่พบพนักงานมีสารเสพติดแม้แต่รายเดียว เตรียมเสนอจังหวัดประกาศเป็นโรงงานสีขาว ตัวอย่าง
วันนี้ (4 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ภายในโรงงาน เจ เอ็ม ที ลาบอเรตอรีส จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาเส้นผม ยี่ห้อ จัสท์โมเดิร์น ตั้งอยู่เลขที่ 200 ม.10 ริมถนนมิตรภาพ-หนองคาย ต.โตนด อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา นายณัชวันก์ อัลภาชน์เตชะเสน ปลัดอาวุโสอำเภอโนนสูง รักษาราชการแทนนายอำเภอโนนสูง พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิษณุ วัตถุ ผกก.สภ.โนนสูง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอโนนสูง ได้นำกำลังกว่า 30 นาย เข้าไปทำการตรวจปัสสาวะพนักงานโรงงานดังกล่าว เพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย โดยมี นายณรงค์ สมบูรณ์ศักดิกุล เจ้าของโรงงานนำเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการในครั้งนี้
นายณัชวันก์ อัลภาชน์เตชะเสน ปลัดอาวุโสอำเภอโนนสูง รักษาราชการแทนนายอำเภอโนนสูง กล่าวว่า อำเภอโนนสูง ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและปราบปรามปัญหายาเสพติด ทั้งตำรวจ ปกครอง สาธารณสุข ในการเข้าตรวจค้นตามจุดเสี่ยงต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งที่ผ่านมา อำเภอโนนสูงได้ดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหลายครั้ง โดยใช้แผนปิดประตูตีแมว ซึ่งเป็นการเข้าตรวจค้นโดยไม่ได้แจ้งให้เจ้าของสถานที่รู้ตัวมาก่อน ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
และในครั้งนี้ได้เข้าตรวจหาสารเสพติดพนักงานในโรงงาน จัสท์โมเดิร์น ที่มีพนักงานรวมกันไม่น้อยกว่า 500 คน ผลปรากฏว่า ไม่พบพนักงานมีสารเสพติดแม้แต่รายเดียว ซึ่งจะเสนอให้ทางจังหวัดนครราชสีมา มอบใบประกาศ ให้กับโรงงานแห่งนี้ เพื่อเป็นโรงงานสีขาวตัวอย่าง
นายณัชวันก์ กล่าวอีกว่า การดำเนินการตามแผน ปิดประตูตีแมวนี้ จะยังคงเดินหน้าในพื้นที่เสี่ยงในพื้นที่รับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากพบรายใดมีสารเสพติดในร่างกาย จะมีการบันทึกประวัติ พร้อมส่งตัวเข้ารับการบำบัดรักษาในค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (ศูนย์เรารักนายโนนสูง) หลักสูตร 9 วัน แต่หากบุคคลที่ตรวจพบรายใดไม่ตกลงยินยอมเข้ารับการบำบัดรักษา ก็จะมีการส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
ทั้งนี้ การเข้าตรวจค้นโรงงานต่างๆ ทางอำเภอโนนสูง ได้มีการขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการทุกแห่ง ว่า หากพบพนักงาน หรือบุคคลใดมีสารเสพติด ก็ขอให้โอกาสบุคคลนั้นได้รับการบำบัดรักษา โดยช่วงระยะเวลา 9 วันที่เข้ารับการบำบัด ให้พนักงานรายนั้นทำหนังสือขอลาป่วย และเมื่อเสร็จสิ้นการบำบัด ก็ขอให้รับกลับเข้ามาทำงานตามปกติ เพื่อเป็นการช่วยเหลือแรงงานไม่ให้ตกงานอีกทางหนึ่งด้วย