มหาสารคาม - สถานการณ์ภัยแล้ง จ.มหาสารคามยังอยู่ในระดับรุนแรง ล่าสุดจังหวัดประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในพื้นที่อำเภอเชียงยืนเพิ่มอีก 1 อำเภอ มีประชาชนเดือดร้อนจากภัยแล้งแล้วกว่า 288,078 คน
นายวีระพล สุพรรณไชยมาตย์ ปลัดจังหวัดมหาสารคาม ได้เรียกประชุมหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยแล้งอีกครั้ง แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาหลายพื้นที่จะมีฝนตกในพื้นที่ แต่สถานการณ์ภัยแล้งยังน่าเป็นห่วงและมีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ซึ่งได้แจกจ่ายน้ำไปแล้วกว่า 200,000 ลิตร
พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามผลกระทบภัยแล้งด้านพืช โดยเฉพาะนาปรังที่ปลูกนอกเขตชลประทาน พร้อมฝากเตือนไม่ให้เกษตรกรทำนาปรังรอบที่ 2 เนื่องจากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 17 แห่ง โดยรวมเหลือปริมาณเก็บกักเพียงร้อยละ 45 ของความจุอ่าง 81.41 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำห้วยคะคาง, ห้วยประดู่ และอ่างเก็บน้ำหนองกระทุ่มในเขตพื้นที่อำเภอเมือง
และอ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ อำเภอบรบือ เนื่องจากมีปริมาณเก็บกักไม่ถึงร้อยละ 30 ของความจุ ซึ่งถือว่ามีปัญหาต่อการใช้น้ำของประชาชน จึงขอให้ทุกฝ่ายช่วยประชาสัมพันธ์ชี้แจงประชาชนให้ร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัดไปก่อนในช่วงนี้ เพื่อเก็บสำรองไว้สำหรับอุปโภคบริโภคเป็นลำดับแรก
และจากสถานการณ์ภัยแล้งที่รุนแรง จังหวัดมหาสารคามได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในพื้นที่อำเภอเชียงยืนเพิ่มอีก 1 อำเภอ จำนวน 8 ตำบล 89 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 22,874 คน 6,527 ครัวเรือน โดยก่อนหน้านี้ประกาศไปแล้ว 6 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอวาปีปทุม, อำเภอแกดำ, อำเภอโกสุมพิสัย, อำเภอกุดรัง, อำเภอนาเชือก และอำเภอยางสีสุราช รวมพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ง 7 อำเภอ มีประชาชนประสบภัยแล้งทั้งหมด 62 ตำบล 892 หมู่บ้าน จำนวนประชาชนที่เดือดร้อน 288,078 คน 77,493 ครัวเรือน
