พระนครศรีอยุธยา - ยังวุ่นไม่เลิกชาวบ้านจากอำเภออุทัย พระนครศรีอยุธยากว่า 2,000 คน ยึดที่หน้าว่าการอำเภอประท้วงไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเงินชดเชยค่าเสียหายน้ำท่วมปี 2554 ขณะที่ชาวบ้านอำเภอวังน้อยกว่า 300 คน เข้ายื่นเรื่องให้จังหวัดพิจารณาทบทวนการจ่ายเงินกรณีบ้านเรือนเสียหายบางส่วนจากเหตุได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ก่อนจะจ่ายจริงในวันที่ 10 และ 11 พ.ค.นี้
เมื่อช่วงสายวันนี้ (30 เม.ย.) ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภออุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ชาวบ้านกว่า 2,000 คนได้พากันบุกยึดที่ว่าการอำเภออุทัยธานี เพื่อประท้วงเงินชดเชยค่าเสียหายจากอุทกภัยน้ำท่วมปี 2554 ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยตะโกนด่าการทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และอำเภอว่าเลือกปฏิบัติ ไม่ให้ความเป็นธรรม พร้อมทั้งชูป้ายด่าประชดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายสุวิทย์ แซ่เจียม อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/5 หมู่ 5 ต.บ้านหีบ อ.อูทัย จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า บ้านตนเป็นบ้านปูน น้ำท่วมจนมิดหลังคาเสียหายเกือบทั้งหลัง แต่ได้เงินชดเชยค่าเสียหายแค่ 240 บาท ไม่ทราบว่าทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาอะไรมาประเมิน ทั้งๆ ที่บ้านใกล้เคียงกันเสียหายเหมือนกัน แต่ได้เงินชดเชยเป็นหมื่นบาท
ต่อมา นายทวี นริสศิริกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล สมาชิสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนัทธี บ่อสุวรรณ ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เดินทางมาพบกับชาวบ้านพร้อมทั้งเรียกผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 11 ตำบล 1 เทศบาลเข้าร่วมประชุมหารือกับตัวแทนชาวบ้านของแต่ละชุมชนจนได้ข้อสรุปว่า สำหรับใครที่มีรายชื่อตกหล่นให้ทำเรื่องขึ้นมาใหม่ คนที่ไม่พอใจในจำนวนยอดเงินที่ได้รับหรือคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมให้ทำหนังสือยี่นขออุทธรณ์กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นๆ แล้วให้เจ้าหน้าที่ทำการสำรวจใหม่ ส่วนผู้ที่พอใจในยอดเงินก็ให้ไปเบิกได้เลย
ต่อมา ช่วงบ่ายวันเดียวกันเวลา 13.30 น. ที่ศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีชาวบ้านจาก ต.ลำตาเสา อ.วังน้อยกว่า 300 คนเดินทางมายื่นเรื่องเรียกร้องให้พิจารณาการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยากรณีบ้านเรือนเสียหายบางส่วนจากผลกระทบจากอุทกภัยเมื่อปีที่ผ่านมา เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ปิดประกาศแจ้งชาวบ้านให้ไปรับเงินในวันที่ 10 และ 11 พฤษภาคมนี้ แต่พบว่า ได้รับเงินค่าชดเชยแตกต่างกันมาก เช่น บ้านชั้นเดียวในลักษณะเดียวกัน แต่ได้รับเงินแตกต่างกันมาก คือ มีทั้งหลังละ 2 หมื่นบาท และต่ำสุดหลังละ 210 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ ชาวบ้านได้เดินทางไปที่เทศบาลลำตาเสา เพื่อสอบถามถึงรายละเอียดดังกล่าว
แต่ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ของเทศบาลฯ ให้เดินทางมาที่ศูนย์ราชการจังหวัดฯ โดยส่งหัวหน้ากองช่างของเทศบาลฯ มาชี้แจงและรับเรื่องไว้ พร้อมให้ชาวบ้านนำเอกสารร้องเรียนของทางราชการไปเขียน แล้วนำกลับมายื่นเรื่องอีกครั้ง ทั้งนี้ มี นายสุรศักด์ พันธ์เจริญวรกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เข้ามาเจรจาและรับปากจะดูแลในเรื่องดังกล่าวให้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านจากอำเภออุทัยเกือบ 200 คนเคยมายื่นเรื่องร้องเรียนเช่นเดียวกันนี้แล้ว
สำหรับงบประมาณการช่วยเหลือกรณีบ้านเรือนเสียหายบางส่วนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีกว่าแสนครัวเรือน ทางจังหวัดได้รับอนุมัติจากรัฐบาลในวงเงินกว่า 1,900 ล้านบาท โดยมีท้องถิ่นเป็นผู้สำรวจ กรณีบ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง จังหวัดได้จ่ายเงินไปทั้งหมดแล้ว ส่วนบ้านเรือนเสียหายบางส่วนได้ทยอยจ่าย แต่ไม่เกินหลังละ 2 หมื่นบาท