ตราด - ชลประทานตราดเผย 6 อ่างเก็บน้ำตราด มีน้ำเหลือ 60% มากกว่าปี 54 ที่เกิดภาวะขาดแคลน ระบุให้เกษตรกรทำนาใน 3 ตำบล ทำนาปีได้เต็มพื้นที่ ส่วนนาปรังก็เพิ่มน้ำให้เพื่อเพิ่มพื้นที่ปลูก
นายสมคิด สัมมา หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำ และปรับปรุงระบบชลประทาน ปฏิบัติราชการแทนผู้จัดโครงการสำนักงานชลประทาน จ.ตราด เปิดเผยว่า จากภาวะฝนที่ไม่ตกต่อเนื่องกันมา ประมาณ 1-2 เดือน ทำให้ปริมาณการจัดเก็บน้ำที่สำคัญใน จังหวัดตราด 6 แห่ง มีปริมาณน้ำที่ลดลง เหลือในระดับ 60% ของความจุของอ่างเก็บน้ำที่สำคัญ เช่น อ่างเก็บน้ำเขาระกำ อ่างเก็บน้ำคลองห้วยแร้ง อ่างเก็บน้ำคลองโสน อ่างเก็บน้ำวังปลาหมอ อ่างเก็บน้าบ้านมะนาว และอ่างเก็บน้ำด่านชุมพล มีปริมาณน้ำเฉลี่ยในระดับร้อยละ 37-88 ของความจุ หรือเฉลี่ยประมาณ 60% ซึ่งหากเทียบกับการจัดเก็บน้ำทั้ง 6 อ่างในปี 2554 แล้ว จะพบว่ามีเพียงร้อยละ 50 เท่านั้น ซึ่งคาดว่าปี 2555 จังหวัดตราดจะมีน้ำเพียงพอในการทำการเกษตร และจ่ายน้ำให้แก่การประปาส่วนภูมิภาค นำไปผลิตเป็นน้ำประปาให้แก่ประชาชนได้อย่างเพียงพอ
นายสมคิด กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่การเกษตรในเขตชลประทาน ในปี 2555 ทางสำนักงานได้ขยายพื้นที่การทำเกษตรในเขตชลประทานเพิ่มขึ้น ทำให้พื้นที่ทำการเกษตรใน 3 ตำบลหลักของอำเภอเมืองตราด ประกอบด้วย ตำบลหนองเสม็ด ตำบลหนองโสน และตำบลหนองคันทรง สามารถทำนาปีได้มากกว่าปีที่แล้วกว่าร้อยละ 60 หรือสามารถทำได้เต็มพื้นที่การเกษตรใน 3 ตำบลนี้
โดยเฉพาะการปลูกข้าวนาปี ซึ่งสามารถทำได้เต็มพื้นที่โดยไม่จำกัด เนื่องจากทางชลประทานได้ขยายเขตพื้นที่การจ่ายน้ำออกไปจนครอบคลุมการทำการเกษตรได้ทั้ง 3 ตำบล
สำหรับพื้นที่การปลูกข้าวนาปรังนั้น ซึ่งเกษตรกรจะใช้น้ำเป็นงวดสุดท้ายก่อนที่จะมีการเก็บเกี่ยว ทางชลประทานก็สามารถปล่อยน้ำให้เกษตรกรทำนาปรังให้แก่กลุ่มนี้ได้ ทั้งนี้ จะสามารถเพิ่มผลผลิตการทำนา และผลผลิตของข้าวเปลือกได้ 30%
นายสมคิด สัมมา หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำ และปรับปรุงระบบชลประทาน ปฏิบัติราชการแทนผู้จัดโครงการสำนักงานชลประทาน จ.ตราด เปิดเผยว่า จากภาวะฝนที่ไม่ตกต่อเนื่องกันมา ประมาณ 1-2 เดือน ทำให้ปริมาณการจัดเก็บน้ำที่สำคัญใน จังหวัดตราด 6 แห่ง มีปริมาณน้ำที่ลดลง เหลือในระดับ 60% ของความจุของอ่างเก็บน้ำที่สำคัญ เช่น อ่างเก็บน้ำเขาระกำ อ่างเก็บน้ำคลองห้วยแร้ง อ่างเก็บน้ำคลองโสน อ่างเก็บน้ำวังปลาหมอ อ่างเก็บน้าบ้านมะนาว และอ่างเก็บน้ำด่านชุมพล มีปริมาณน้ำเฉลี่ยในระดับร้อยละ 37-88 ของความจุ หรือเฉลี่ยประมาณ 60% ซึ่งหากเทียบกับการจัดเก็บน้ำทั้ง 6 อ่างในปี 2554 แล้ว จะพบว่ามีเพียงร้อยละ 50 เท่านั้น ซึ่งคาดว่าปี 2555 จังหวัดตราดจะมีน้ำเพียงพอในการทำการเกษตร และจ่ายน้ำให้แก่การประปาส่วนภูมิภาค นำไปผลิตเป็นน้ำประปาให้แก่ประชาชนได้อย่างเพียงพอ
นายสมคิด กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่การเกษตรในเขตชลประทาน ในปี 2555 ทางสำนักงานได้ขยายพื้นที่การทำเกษตรในเขตชลประทานเพิ่มขึ้น ทำให้พื้นที่ทำการเกษตรใน 3 ตำบลหลักของอำเภอเมืองตราด ประกอบด้วย ตำบลหนองเสม็ด ตำบลหนองโสน และตำบลหนองคันทรง สามารถทำนาปีได้มากกว่าปีที่แล้วกว่าร้อยละ 60 หรือสามารถทำได้เต็มพื้นที่การเกษตรใน 3 ตำบลนี้
โดยเฉพาะการปลูกข้าวนาปี ซึ่งสามารถทำได้เต็มพื้นที่โดยไม่จำกัด เนื่องจากทางชลประทานได้ขยายเขตพื้นที่การจ่ายน้ำออกไปจนครอบคลุมการทำการเกษตรได้ทั้ง 3 ตำบล
สำหรับพื้นที่การปลูกข้าวนาปรังนั้น ซึ่งเกษตรกรจะใช้น้ำเป็นงวดสุดท้ายก่อนที่จะมีการเก็บเกี่ยว ทางชลประทานก็สามารถปล่อยน้ำให้เกษตรกรทำนาปรังให้แก่กลุ่มนี้ได้ ทั้งนี้ จะสามารถเพิ่มผลผลิตการทำนา และผลผลิตของข้าวเปลือกได้ 30%
