พระนครศรีอยุธยา - เกิดเหตุเรือลากจูงบรรทุกดินล่มกลางแม่น้ำเจ้าพระยาที่บริเวณตำบลภูเขาทอง พระนครศรีอยุธยา แจ้งเจ้าหน้าที่เร่งกู้ เนื่องจากเป็นเส้นทางสัญจรของเรือบรรทุกสินค้าที่จะไปส่งขายในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง
วันนี้ (26 เม.ย.) นายอนันต์ หากิจ ชาวบ้าน หมู่ 2 ตำบลภูเขาทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เปิดเผยว่า มีเหตุเรือลากจูงบรรทุกดินล่มกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เรือดังกล่าวลอยลำขวางแม่น้ำ ซึ่งเป็นบริเวณเดียวกันกับที่เคยเกิดเหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำตาลทรายล่ม เมื่อกลางปี 2554 ที่ผ่านมา
โดยเหตุดังกล่าวเกิดเมื่อเวลา 23.00 น.ของคืนวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่า มีเรือลากจูงบรรทุกดิน 4 ลำ จากอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง บรรทุกดินเพื่อนำไปส่งที่จังหวัดปทุมธานี แล่นผ่านบริเวณดังกล่าว แล้วเกิดอุบัติเหตุล่มลงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งก่อนหน้านี้ ชาวบ้านบอกว่าได้ยินเสียงดังบริเวณตอม่อสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา และคาดว่าเรือบรรทุกดินอาจจะชนกับตอม่อสะพาน
อีกทั้งน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ในช่วงนี้ปริมาณน้ำได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด อาจทำให้ท้องรือบรรทุกดินไปชน และกระแทกกับของแข็งใต้แม่น้ำ จึงทำให้เรือรั่วและแตกได้ ล่าสุด ได้มีการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายของเรือ และเร่งกู้เรือแล้ว เนื่องจากเกรงว่า เรือที่ใช้สัญจรไปมาในแต่ละวันจำนวนมาก จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย
วันนี้ (26 เม.ย.) นายอนันต์ หากิจ ชาวบ้าน หมู่ 2 ตำบลภูเขาทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เปิดเผยว่า มีเหตุเรือลากจูงบรรทุกดินล่มกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เรือดังกล่าวลอยลำขวางแม่น้ำ ซึ่งเป็นบริเวณเดียวกันกับที่เคยเกิดเหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำตาลทรายล่ม เมื่อกลางปี 2554 ที่ผ่านมา
โดยเหตุดังกล่าวเกิดเมื่อเวลา 23.00 น.ของคืนวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่า มีเรือลากจูงบรรทุกดิน 4 ลำ จากอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง บรรทุกดินเพื่อนำไปส่งที่จังหวัดปทุมธานี แล่นผ่านบริเวณดังกล่าว แล้วเกิดอุบัติเหตุล่มลงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งก่อนหน้านี้ ชาวบ้านบอกว่าได้ยินเสียงดังบริเวณตอม่อสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา และคาดว่าเรือบรรทุกดินอาจจะชนกับตอม่อสะพาน
อีกทั้งน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ในช่วงนี้ปริมาณน้ำได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด อาจทำให้ท้องรือบรรทุกดินไปชน และกระแทกกับของแข็งใต้แม่น้ำ จึงทำให้เรือรั่วและแตกได้ ล่าสุด ได้มีการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายของเรือ และเร่งกู้เรือแล้ว เนื่องจากเกรงว่า เรือที่ใช้สัญจรไปมาในแต่ละวันจำนวนมาก จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย