ศูนย์ข่าวศรีราชา-ตร.ศรีราชา จับกุมผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หลบหนีมานานถึง 13 ปี และยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาลักทรัพย์ รวมผู้ต้องหา 2 ราย
วันนี้ (25 เม.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และ พ.ต.อ.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผกก.สภ.ศรีราชา ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือ คดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และคดีลักทรัพย์
สำหรับผู้ต้องหารายแรกคือ นายดุสิต หรือ เจี๊ยบ ถูกจิตต์ หรือ นายภิภัฎก์ษัตญา ถิรวิวัฒน์กุล อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ได้ที่โรงอาหารบริษัทไดกิ้น ภายในนิคมฯ อมตะนคร ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี
พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวถึงพฤติการณ์ของผู้ต้องหารายแรก สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2543 ซึ่งอยู่ระหว่างรับราชการทหารเกณฑ์ ได้ร่วมกับพวกใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .380 ยิงนายอนุชา สุทธิวิเศษ เสียชีวิตแล้วหลบหนีไป โดยเหตุเกิดในท้องที่ สภ.ศรีราชา
ระหว่างหลบหนีนั้น ได้มีการเปลี่ยนแปลงเอกสารประจำตัว มีการเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุล ย้ายที่อยู่ โดยหลบหนีคดีมาเป็นเวลานานถึง 13 ปี โดยไม่ถูกจับกุมตัว เนื่องจากย้ายที่อยู่เป็นประจำ เช่น อยู่ฉะเชิงเทรา 3 ปี จากนั้นก็ย้ายไปอยู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 2-3 ปี ซึ่งอยู่ในแต่ละพื้นที่ก็จะเปลี่ยนชื่อ โดยเปลี่ยนชื่อ และนามสกุลทั้งสิ้น 8 ครั้ง
พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหารายที่ 2 คือ นายวราวุฒิ สมจิตต์ อายุ 28 ปี โดยร่วมกับพวกงัดแงะเข้าไปลักทรัพย์ในร้านขายรถบังคับวิทยุนำเข้า จากร้านเอ็ม สปีด ม.9 ต.บางพระ นอกจากนั้น ยังเข้าไปลักทรัพย์รถบังคับวิทยุ และเฮลิคอปเตอร์บังคับวิทยุ จากร้าน ท๊อปอาร์ซี (แหลมฉบัง) โดยทรัพย์สินที่ลักขโมยไปนั้นมูลค่าประมาณ 650,000 บาท
การจับกุมได้ในครั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงตั้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นที่ใช้คุ้มครองทรัพย์นั้น โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิด พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป