ASTVผู้จัดการออนไลน์ -โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ซีพีเอฟสระบุรี รับรางวัล TQC 3 ปีซ้อน ตอกย้ำผู้นำบริหารสู่ความเป็นเลิศ ตั้งเป้าคว้า TQA ปี ‘58
นายณฤกษ์ มางเขียว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ธุรกิจอาหารแปรรูปเนื้อไก่ สระบุรี บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) ได้รับ “รางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศ” (Thailand Quality Class) หรือ TQC จากสำนักงานรางวัลคุณภาพแห่งชาติ สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปี 2552-2554 ตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นองค์กรชั้นนำของไทย ที่มีระบบการบริหารจัดการองค์กรอย่างบูรณาการ คุณภาพทัดเทียมระดับมาตรฐานโลก โดยตั้งเป้าหมายที่จะก้าวสู่รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Awards) หรือ TQA ภายในปี 2558
นายณฤกษ์ กล่าวอีกว่า ซีพีเอฟมีนโยบายที่ให้ความสำคัญ และมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานด้านการบริหารจัดการองค์กรมาอย่างต่อเนื่อง โดยนำเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติมาปรับใช้ในองค์กร ซึ่งเป็นที่มาของรางวัล TQC ที่ช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ผู้นำในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และอาหารให้ชัดเจนขึ้นในทุกมิติ
ทั้งการนำองค์กร การวางแผนเชิงกลยุทธ์ การมุ่งเน้นลูกค้า การวัดวิเคราะห์จัดการความรู้ บุคลากร การจัดการกระบวนการ และผลลัพธ์ทางธุรกิจ ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า รวมทั้งคู่ค้าที่ทำธุรกิจร่วมกัน
นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้เกิด “ความยั่งยืน” ของการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการตอบสนองต่อความจำเป็นของธุรกิจในปัจจุบัน การเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตในทุกด้าน รวมทั้งการคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม รางวัล TQC จึงเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมในการพัฒนาเพื่อก้าวไปสู่การได้รับรางวัล TQA ต่อไปในอนาคต ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถของกรุงเทพโปรดิ๊วส ในเวทีการแข่งขันในระดับโลก และเป็นแนวทางที่ทำให้ซีพีเอฟสามารถบรรลุวิสัยทัศน์การเป็นครัวของโลกได้
“การได้มาซึ่งรางวัลติดต่อกันถึง 3 ปีซ้อน นับว่าเป็นงานหนักสำหรับเรา เนื่องจากต้องใช้เวลาเตรียมตัวล่วงหน้าถึง 3 ปี สำหรับรวบรวมข้อมูล และแผนปฏิบัติงานให้ตรงตามเกณฑ์ แต่ผลที่ได้ก็คุ้มค่า เพราะเมื่อมีการปรับปรุงการบริหารจัดการ ก็ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลง ขณะที่ผลประกอบการกลับดีขึ้น
สำหรับหัวใจของความสำเร็จคือ การที่ผู้นำมีการกำหนดนโยบายที่ชัดเจน จากนั้นจึงถ่ายทอดเป้าหมายจากระดับนโยบายไปยังพนักงานขององค์กรให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน ส่งผลให้เกิดการเรียนรู้ มีการทำงานเป็นทีม และร่วมขับเคลื่อนองค์กรไปพร้อมกัน ทั้งนี้ การคว้ารางวัลติดต่อกันทำให้เรากลายเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่หน่วยงานต่างๆ ในเครือ ขณะเดียวกัน ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับกลุ่มต่างๆ มากยิ่งขึ้น” นายณฤกษ์ กล่าวและว่า
เกณฑ์ของ TQA ทำให้สามารถคาดการณ์จุดบอดของธุรกิจได้ไกล 5-10 ปี ขณะเดียวกัน ก็สอนให้ไม่ตั้งอยู่บนความประมาท จึงต้องคิดถึงจุดแข็งใหม่ๆ และพัฒนาตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการจะก้าวขึ้นสู่รางวัล TQA จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ทีมงานก็พร้อมที่จะเปลี่ยนเรื่องยากให้เป็นความมุ่งมั่นและท้าทาย พร้อมปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถคว้ารางวัลคุณภาพระดับโลกนี้มาครองให้ได้
นายณฤกษ์ มางเขียว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ธุรกิจอาหารแปรรูปเนื้อไก่ สระบุรี บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) ได้รับ “รางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศ” (Thailand Quality Class) หรือ TQC จากสำนักงานรางวัลคุณภาพแห่งชาติ สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปี 2552-2554 ตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นองค์กรชั้นนำของไทย ที่มีระบบการบริหารจัดการองค์กรอย่างบูรณาการ คุณภาพทัดเทียมระดับมาตรฐานโลก โดยตั้งเป้าหมายที่จะก้าวสู่รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Awards) หรือ TQA ภายในปี 2558
นายณฤกษ์ กล่าวอีกว่า ซีพีเอฟมีนโยบายที่ให้ความสำคัญ และมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานด้านการบริหารจัดการองค์กรมาอย่างต่อเนื่อง โดยนำเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติมาปรับใช้ในองค์กร ซึ่งเป็นที่มาของรางวัล TQC ที่ช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ผู้นำในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และอาหารให้ชัดเจนขึ้นในทุกมิติ
ทั้งการนำองค์กร การวางแผนเชิงกลยุทธ์ การมุ่งเน้นลูกค้า การวัดวิเคราะห์จัดการความรู้ บุคลากร การจัดการกระบวนการ และผลลัพธ์ทางธุรกิจ ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า รวมทั้งคู่ค้าที่ทำธุรกิจร่วมกัน
นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้เกิด “ความยั่งยืน” ของการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการตอบสนองต่อความจำเป็นของธุรกิจในปัจจุบัน การเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตในทุกด้าน รวมทั้งการคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม รางวัล TQC จึงเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมในการพัฒนาเพื่อก้าวไปสู่การได้รับรางวัล TQA ต่อไปในอนาคต ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถของกรุงเทพโปรดิ๊วส ในเวทีการแข่งขันในระดับโลก และเป็นแนวทางที่ทำให้ซีพีเอฟสามารถบรรลุวิสัยทัศน์การเป็นครัวของโลกได้
“การได้มาซึ่งรางวัลติดต่อกันถึง 3 ปีซ้อน นับว่าเป็นงานหนักสำหรับเรา เนื่องจากต้องใช้เวลาเตรียมตัวล่วงหน้าถึง 3 ปี สำหรับรวบรวมข้อมูล และแผนปฏิบัติงานให้ตรงตามเกณฑ์ แต่ผลที่ได้ก็คุ้มค่า เพราะเมื่อมีการปรับปรุงการบริหารจัดการ ก็ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลง ขณะที่ผลประกอบการกลับดีขึ้น
สำหรับหัวใจของความสำเร็จคือ การที่ผู้นำมีการกำหนดนโยบายที่ชัดเจน จากนั้นจึงถ่ายทอดเป้าหมายจากระดับนโยบายไปยังพนักงานขององค์กรให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน ส่งผลให้เกิดการเรียนรู้ มีการทำงานเป็นทีม และร่วมขับเคลื่อนองค์กรไปพร้อมกัน ทั้งนี้ การคว้ารางวัลติดต่อกันทำให้เรากลายเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่หน่วยงานต่างๆ ในเครือ ขณะเดียวกัน ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับกลุ่มต่างๆ มากยิ่งขึ้น” นายณฤกษ์ กล่าวและว่า
เกณฑ์ของ TQA ทำให้สามารถคาดการณ์จุดบอดของธุรกิจได้ไกล 5-10 ปี ขณะเดียวกัน ก็สอนให้ไม่ตั้งอยู่บนความประมาท จึงต้องคิดถึงจุดแข็งใหม่ๆ และพัฒนาตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการจะก้าวขึ้นสู่รางวัล TQA จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ทีมงานก็พร้อมที่จะเปลี่ยนเรื่องยากให้เป็นความมุ่งมั่นและท้าทาย พร้อมปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถคว้ารางวัลคุณภาพระดับโลกนี้มาครองให้ได้