กลุ่มเพื่อนหญิงชาวสวิส ร้องสื่อฯ ถูกทำร้ายสาหัส คาดโดนข่มขืนคาบ้านพักที่ชะอำ คดีไม่คืบ

ประจวบคีรีขันธ์ - กลุ่มคริสต์จักรบอนกาแฟหัวหิน เข้าร้องสื่อฯ ให้ช่วยเหลือ หลังพบหญิงชาวสวิตเซอร์แลนด์วัย 65 ปี ถูกคนร้ายบุกเข้าทำร้ายในบ้านพักที่ชะอำ จนสาหัส สมองช้ำ ลืมตาไม่ได้ ล่าสุด ยังไม่รู้สึกตัวนอนพักรักษาตัวที่ รพ.หัวหิน ซึ่งทางโรงพยาบาลฯ ส่งผลไปตรวจที่สถาบันนิติเวช ว่ามีร่องรอยถูกข่มขืนหรือไม่ ส่วนผลคดีไม่มีความคืบหน้า จึงเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องมาดูแล และแจ้งไปยังสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ ประจำประเทศไทยให้รับทราบแล้วในเบื้องต้น เพราะถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวในไทยอย่างยิ่ง

วันนี้ (21 เม.ย.) เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางหนูการ ริชเตอร์ กลุ่มคริสต์จักรบอนกาแฟ หัวหิน ว่า mrs.Ruth giordanengo อายุ 65 ปี ชาวสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นเพื่อนและเข้ามาเป็นสมาชิกของกลุ่มคริสต์จักรบอนกาแฟหัวหิน โดยหญิงชาวสวิสได้เกษียณและชื่นชอบเมืองไทยจึงขายทรัพย์สินที่เมืองนอกมาซื้อบ้านอยู่ที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ได้เพียงประมาณ 4 เดือนเท่านั้น และมาช่วยเหลือดูแลเด็กกำพร้าร่วมกับทางกลุ่มคริสต์จักรฯ แต่มาถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายเปลือยกายอย่างเหี้ยมโหดจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในบ้านพักเลขที่ 1062/26 ถนนคันคลอง-ไทรย้อย ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

โดยมีเพื่อนบ้านชาวไทยข้างเคียงไปพบหญิงชาวต่างชาติ นอนเปลือยกายอยู่ในห้องพัก มีเลือดไหลนอง ส่วนชุดนอนสีฟ้าที่สภาพเปื้อนเลือด และยังพบยางในรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่น่าจะนำมามัดข้อมือของหญิงชาวสวิสตกอยู่ อีกทั้งคงจะมีการต่อสู้กับคนร้ายด้วย ดูจากสภาพเลือดที่อยู่ในปากของหญิงชาวสวิส ซึ่งเพื่อนชาวไทยข้างบ้านทราบว่า เป็นตำรวจพลร่ม และพยาบาล จึงนำส่งโรงพยาบาลซานเปาโล หัวหิน เมื่อเย็นวันที่ 17 เมษายน 2555 ที่ผ่านมา จึงมีการเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ ในวันดังกล่าว ซึ่งคาดกันว่า หากวันดังกล่าวเพื่อนบ้านไม่ไปพบหญิงชาวสวิสคงจะไม่รอด เนื่องจากสภาพในตอนนั้น ภายในบ้านพักเลือดเริ่มแห้ง ซึ่งน่าจะถูกทำร้ายตั้งแต่คืนวันที่ 16 เมษายน 2555

ซึ่งทางแพทย์โรงพยาบาลซานเปาโลหัวหินได้ทำการตรวจพบว่า หญิงชาวต่างชาติถูกตีด้วยของแข็งทำให้สมองช้ำ เนื่องจากได้รับความกระทบกระเทือน เบ้าตาช้ำ และที่บริเวณข้อมือ 2 ข้างมีบาดแผล อาการสาหัสไม่รู้สึกตัว

จนกระทั่งวันที่ 19 เมษายน 255 ที่ผ่านมา ทางกลุ่มคริสต์จักรบอนกาแฟหัวหิน ได้ผลัดเปลี่ยนไปเฝ้าดูอาการแต่ยังไม่ดีขึ้น และค่าใช้จ่ายในการรักษาก็สูงถึงเกือบ 80,000 บาท ทางกลุ่มคริสต์จักรบอนกาแฟหัวหิน จึงทำการออกค่ารักษา และนำเพื่อนหญิงชาวต่างชาติ มารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลหัวหิน ในเย็นวันที่ 19 เมษายน 2555 และยังแสดงความเห็นว่า พนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ ไม่ให้ความสนใจ

โดยเฉพาะด้านคดีไม่มีความคืบหน้า จึงได้ร้องเรียนไปยังสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย และร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนหัวหินในวันนี้ เพื่อให้ช่วยเหลือและเร่งรัดให้ทางหน่วยงานเกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษทางกฏหมาย เนื่องจากทำให้เสียภาพลักษณ์ต่อบรรยากาศการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ทางญาติในต่างประเทศ ได้ทราบเรื่อง และเตรียมทางเดินทางมาเมืองไทยในเร็ววันนี้

ล่าสุด หลังจากนั้นทางกลุ่มคริสต์จักรบอนการแฟหัวหิน ได้พาคณะสื่อมวลชนไปยังโรงพยาบาลหัวหิน แต่เบื้องต้นตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหัวหิน ช่วงแรกได้รับคำตอบว่า ไม่มีหญิงต่างชาติถูกทำร้ายมารักษาตัวแต่อย่างใด จนกระทั่งเพื่อนกลุ่มคริสต์จักรบอนกาแฟหัวหิน มายืนยันว่า รักษาตัวอยู่ทีโรงพยาบาลหัวหินจริง เมื่อตรวจสอบจึงพบว่ารักษาตัวอยู่ที่ชั้น 5 ห้องผู้ป่วยศัลยกรรม หมายเลขเตียง 508 จึงพากันไปเยี่ยม

หลังจากนั้น สื่อมวลชนได้ติดต่อประสานงานไปยัง พ.ต.อ.วิทัศน์ บริรักษ์ ผกก.สภ.ชะอำ ซึ่งเบื้องต้นแจ้งสื่อมวลชนว่า ยังไม่ทราบขอตรวจสอบก่อน และยังได้แจ้งไปยัง พล.ต.ต.วิรัช วัชรขจร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี และได้สั่งการให้ทาง สภ.ชะอำ ตรวจสอบและรีบดำเนินการติดตามคนร้ายเป็นการเร่งด่วน

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน ตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ ผช.ผอ.ททท.ประจวบฯ ที่ทราบข่าวจากทางสื่อมวลชนที่แจ้งไป ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลหัวหิน และขอข้อมูลรายละเอียดจากกลุ่มคริสต์จักรบอนกาแฟหัวหิน

เบื้องต้น นายแพทย์สุวิทย์ ปานดิษฐ์ หมอผู้เชี่ยวชาญทางสมอง ที่ดูแลรักษาคนไข้ชาวต่างชาติ บอกกับสื่อมวลชนว่า อาการยังถือว่าสาหัส ขณะนี้ตาทั้ง 2 ข้างยังลืมไม่ได้ และมีอาการเบลอ เพิ่งรู้สึกตัวในวันนี้ ซึ่งเกิดจากสมองได้รับความกระทบกระเทือน

ส่วนตาที่ยังไม่ลืมเนื่องจากที่เบ้าตาอาจถูกทุบจนทำให้ลืมตาไม่ได้ นอกจากนั้น คาดว่าอาการเลอ และยังลืมตาไม้ได้คงต้องใช้ระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ หรืออาจถึง 1 เดือน ส่วนการที่จะระบุว่าโดนข่มขืนหรือไม่นั้น คงต้องรอผลจากการที่ส่งไปตรวจที่สถาบันนิติเวช ซึ่งต้องใช้เวลาอีกประมาณ 1-2 สัปดาห์ถึงจะรู้ผล เบื้องต้น ได้ให้แพทย์พยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด

ด้านนายอภิชาติ หงษ์สกุล ประธานฝ่ายพัฒนาท่องเที่ยว สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหญิงชาวสวิตเซอร์แลนด์ในครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์เลวร้าย ที่ไมสมควรเกิดขึ้นในเมืองไทย โดยอำเภอชะอำ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว

โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นแล้ว กลับไม่มีหน่วยงานใดให้ความสนใจ จนทำให้ทางกลุ่มเพื่อนฯ ของผู้ได้รับบาดเจ็บ แจ้งสื่อมวลชนให้ทราบเรื่องนี้ อยากเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาดูแล โดยเฉพาะทางตำรวจเจ้าของท้องที่ที่เกิดเหตุ สภ.ชะอำ ต้องเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว และหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งระดับจังหวัด อำเภอ ททท.ก็ควรให้ความสำคัญ เข้ามาดูแลหญิงชาวต่างชาติคนดังกล่าว

“โดยเฉพาะเรื่องค่ารักษาพยาบาล และครั้งนี้ต้องขอบคุณเพื่อนชาวไทยที่ให้ความดูแลหญิงชาวสวิสคนดังกล่าวที่ถูกทำร้าย ตั้งแต่การนำส่งโรงพยาบาล รวมทั้งการติดตามคดี และออกค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลเป็นเงินเกือบ 80,000 บาทแล้วในเบื้องต้น”