สุรินทร์ - พายุฝนฤดูร้อนหอบลูกเห็บพัดถล่ม ต.ช่างปี่ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ อาคารหอประชุมโรงเรียนพังครืน บ้านเรือน ปชช.หลายหมู่บ้านพังเสียหายกว่า 100 หลัง สูญกว่า 5 ล้าน ขณะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งออกสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อน
วันนี้ (20 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดพายุลูกเห็บและพายุฝนฤดูร้อนพัดกระหน่ำ ในหมู่บ้านตระค้อ และ บ้านช่างปี่ ต.ช่างปี่ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ทำให้อาคารหอประชุมโรงเรียนช่างปี่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง หลังคาและโครงเหล็กได้พังครืนลงมาทั้งหลัง มูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท
ขณะที่บ้านเรือนประชาชน ใน บ้านตะคร้อ หมู่ที่ 3 ต.ช่างปี่ อ.ศีขรภูมิ แรงลมได้พัดเอาหลังคาบ้านเรือนและหลังคายุ้งฉางข้าว พังเสียหายหลุดออกจากตัวอาคารปลิวไปตกตามท้องทุ่งนาห่างจากหมู่บ้านนับร้อยเมตร และกับมีลูกเห็บขนาดใหญ่ตกลงพร้อมกับพายุฝน ทำให้ทรัพย์สิน สิ่งของมีค่า รวมทั้งเสื้อ ผ้าห่ม ที่นอน ในบ้านเรือนและข้าวเปลือกในยุ้งฉางเปียกน้ำได้ความเสียหายเป็นจำนวนมาก บ้านเรือนพังเสียหายจำนวน 38 หลัง
ส่วนบ้านช่างปี่ หมู่ที่ 1 ต.ช่างปี่ ถูกพายุพัดบ้านเรือนเสียหายจำนวน 28 หลัง, บ้านทำเนียบ หมู่ที่2 ต.ช่างปี่ บ้านเรือนเสียหายจำนวน 6 หลังคาเรือน, บ้านห้วย หมู่ที่ 14 เสียหายจำนวน 25 หลังคาเรือน, บ้านหนองเหล็ก ต.ช่างปี่ เสียหายจำนวน 20 หลังคาเรือน และอาคารหอประชุม โรงเรียนช่างปี่ พัง 1 หลัง รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 5 ล้านบาท
นางหนูพลอย เกตุชมพู อายุ 35 ปีบ้านเลขที่ 50/1 บ้านตระค้อ หมู่ที่ 3 ต.ช่างปี่ เปิดเผยวินาที ที่ลมพายุฤดูร้อนพัดถล่ม ว่า ในเวลาดังกล่าวสามีได้ไปต้อนวัวที่เลี้ยงไว้ตามทุ่งนาเข้าบ้าน ให้ตนอยู่กับลูกน้อยอายุ 2 ขวบ พอมีพายุหมุนพัดมาอย่างรุนแรง พร้อมฝนตก และมีลูกเห็บตกลงใส่หลังคาบ้านแทบจะพังลงมา ทำให้ตนได้แต่กอดลูกน้อยเอาไว้ ส่วนสังกะสีหลังคาบ้านได้หลุดปลิวหายออกจากตัวบ้านไปต่อหน้าต่อตา ตนได้แต่นั่งร้องไห้ตกใจ และภาวนาขอให้ปลอดภัยแคล้วคลาดจากภัยพิบัติในครั้งนี้ พอลมพายุและฝนสงบลงได้ออกมาดูนอกบ้าน พบว่า สังกะสีหลังคายุ้งข้าวปลิวไปตกกลางทุ่งนาเช่นกัน ทำให้ข้าวเปลือกเปียกน้ำเสียหาย
นายสงค์ เผ่าพันธ์ อายุ 56 ปี บ้านเลขที่50/4 บ้านตะคร้อ หมู่ที่ 3 ต.ช่างปี่ กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ไม่เคยพบเห็นพายุอะไรรุนแรงถึงขนาดนี้มาก่อน พัดเอายุ้งฉางข้าวและสิ่งของในบ้านกระจุยกระจายไปหมด หม้อข้าวตกไปอยู่กลางทุ่งนา ต้องพาลูกเมียหลบอยู่แต่ในบ้านไม่กล้าออกไปกลัวพายุและฟ้าคำรามอยู่ตลอดเวลา เพราะบ้านของตนก็ถูกต้นไม้ล้มทับยังรื้อออกไม่ได้
ทางด้าน นายยงยุทธ จิววุฒิพงศ์ นายก อบต.ช่างปี่ เปิดเผยว่า ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเกิดเหตุวาตภัยครั้งนี้ มีจำนวนกว่า 100 หลังคาเรือน แต่ยังไม่สามารถสรุปความเสียหายได้ ขณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกองช่างกำลังออกเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อนอย่างเร่งด่วนต่อไป ซึ่งเบื้องต้นทาง อบต.สามารถช่วยเหลือได้ทันทีรายละไม่เกิน 30,000 บาท
