ลำปาง - เมืองเขลางค์นครวันนี้เปลี่ยนจากหนาวมากเป็นร้อนมากแล้ว หลังอุณหภูมิพุ่งสูงสุดของประเทศวัดได้ 40.6 องศา ทำผู้สูงอายุเสียชีวิตคาบ้านเพิ่มอีกราย รวมเป็น 4 รายแล้ว
รายงานของกรมอุตุนิยมวิทยาระบุถึงอากาศทางภาคเหนือ โดยเฉพาะที่จังหวัดลำปาง และตากจะมีอุณหภูมิสูงที่สุด โดยอากาศทั่วไปจะร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-42 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 18-21 เมษายน 55 มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ในช่วงวันที่ 22-24 เมษายนมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงกับมีลูกเห็บบางแห่ง ลมตะวันตกความเร็ว 10-25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70%
ขณะที่สถานีอุตุนิยมวิทยาลำปางรายงานสภาพอากาศประจำวันนี้ (20 เม.ย.) ว่า อุณหภูมิสูงสุดที่ จ.ลำปางวัดได้ 40.6 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าเป็นอุณหภูมิที่สูงที่สุดของภาคเหนือ และยังเป็นอุณหภูมิสูงสุดของประเทศไทย
สภาพอากาศที่ร้อนจัดในพื้นที่ อ.เมือง จ.ลำปาง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจนถึงวานนี้ (19 เม.ย.)แล้วไม่ต่ำกว่า 3 ราย ส่วนใหญ่เสียชีวิตในบ้านพักที่มีอากาศร้อนอบอ้าว โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะเป็นคนชราและมีโรคประจำตัว
ล่าสุดวันนี้ (20 เม.ย.) ก็มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุที่บ้านเลขที่ 42 บ้านศรีปงชัย ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง จึงเดินทางไปชันสูตรพลิกศพ ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านไม้สองชั้น พบนางคำ แก้วบุญปัน อายุ 84 ปี นอนเสียชีวิตบนเตียงนอนภายในห้องชั้นล่างของตัวบ้าน
จากการสอบถามญาติและหลานชายผู้ตายเล่าว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมาผู้ตายบ่นว่าอากาศร้อนมาก ประกอบกับผู้ตายเป็นหญิงชราและมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว จึงอาจจะเป็นเหตุทำให้เสียชีวิต ซึ่งญาติผู้ตายไม่ติดใจ จึงนำศพไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
ทั้งนี้ โรงพยาบาลลำปางได้เตือนประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็ก ให้อยู่ในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และอย่าอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องสวมหมวกปีกกว้างเพื่อป้องกันแสงแดดที่กระทบร่างกายโดยตรง และให้ดื่มน้ำมากๆ งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์