พ่อเมืองพะเยาปิดศูนย์ลดอุบัติเหตุฯ แนะ ตร.ให้รางวัลนักบิดที่สวมหมวกนิรภัย

พะเยา - ผู้ว่าฯ พะเยาประกาศปิดศูนย์ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงสงกรานต์ สรุปอุบัติเหตุ 69 ครั้ง บาดเจ็บ 78 ราย และเสียชีวิต 7 ราย เกินเป้าที่ตั้งไว้ ผู้ว่าฯ ย้ำลด 5 เปอร์เซ็นต์เป็นตัวเลขทางยุทธศาสตร์ สั่งเจ้าหน้าที่หาเหตุป้องกันต่อ พร้อมแนะตำรวจแจกรางวัลสิงห์มอเตอร์ไซค์ที่สวมหมวกนิรภัยเพื่อเป็นแรงจูงใจ

วันนี้ (18 เม.ย.) ที่ห้องประชุมจอมทอง ศาลากลางจังหวัดพะเยา นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธานปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2555 โดยระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2555 จังหวัดพะเยามีสถิติการเกิดอุบัติเหตุ 69 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 78 ราย เพิ่มขึ้น 10 ราย และมีผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 7 ราย เพิ่มขึ้น 1 รายจากปีที่ผ่านมา โดยผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บล้วนเป็นคนในพื้นที่จังหวัดพะเยา โดยอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุสำคัญ 3 อันดับแรก คือ การเมาสุรา ขับรถเร็วเกินกำหนด และตัดหน้ากระชั้นชิด สำหรับอำเภอที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ อำเภอเมืองพะเยา รวม 28 ราย ส่วนอำเภอที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดคือ อำเภอดอกคำใต้ รวม 2 ราย โดยยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งเป็นรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือระหว่างเวลา 14.00-20.00 น.

ด้านการปฏิบัติตามมาตรการ 3 ม. 2 ข. และ 1 ร. มีการเรียกตรวจยานพาหนะรวมทั้งสิ้น 11,646 คัน และถูกดำเนินคดีรวม 2,177 ราย โดยแยกเป็นไม่สวมหมวกนิรภัย 745 ราย, ไม่มีใบขับขี่ 602 ราย, ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 439 ราย, ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด 136 ราย, เมาสุรา 131 ราย, มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย 32 ราย, ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 3 ราย, แซงในที่คับขัน 2 ราย, ขับรถย้อนศร 19 ราย และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ 8 ราย

ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยากล่าวย้ำว่า ตัวเลขที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้มา โดยให้อุบัติเหตุลดลงร้อยละ 5 ของปีที่ผ่านมานั้นเป็นเพียงตัวเลขทางยุทธศาสตร์ ซึ่งก็มีความเสี่ยงทางยุทธศาสตร์เช่นกัน และปีนี้จังหวัดพะเยาก็ไม่สามารถปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ที่ให้ไว้ได้ ก็ต้องหาเหตุผลเพื่อนำมาแก้ไขต่อไป ทั้งนี้ ไม่ใช่เฉพาะที่จังหวัดพะเยาที่เกินเป้าที่กำหนดไว้เท่านั้น ในระดับชาติเองก็เกินเป้าเช่นกัน ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดมาประมวลหาเหตุผล ใช้แก้ไขให้เป็นไปตามเป้าที่กำหนดให้ได้

แต่ต้องยอมรับว่า ถึงแม้ปีนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้มงวดกวดขันการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง มีการจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายจราจรเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาเกือบเท่าตัว โดยเฉพาะความผิดขับขี่จักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัยก็ตาม แต่ยอดอุบัติเหตุ บาดเจ็บ และเสียชีวิต ก็ยังเกินเป้าที่ตั้งไว้ ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจใช้วิธีจูงใจเข้ามาช่วยในการรณรงค์สร้างจิตสำนึกในการขับขี่ปลอดภัย ด้วยการแจกจ่ายคูปองชิงรางวัลแก่ผู้ขับขี่จักรยานยนต์ที่สวมหมวกนิรภัย เชื่อว่าจะทำให้ประชาชนหันมาสวมหมวกนิรภัยเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ จะให้แขวงการทางพะเยาแก้ไขวิศวกรรมจราจรที่เกิดอุบัติเหตุให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้นด้วย