กาญจนบุรี -ทึ่ง! แม่สุนัขพันธุ์พูเดิล เลี้ยงลูกแมวเพศเมียจนโต ก่อนคลอดลูกออกมาเป็นเพศเมีย 1 ตัวแล้วหายไป ทิ้งให้แม่สุนัขเลี้ยงลูกแมวตามลำพังต่ออีก
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (15 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายเสกสรรค์ บุญมา อายุ 44 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อยู่บ้านเลขที่ 96/2 หมู่ 10 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ว่า ที่บ้านของป้าเลี้ยงแม่สุนัขพันธุ์พูเดิล อายุ 12 ปี ชื่อข้าวปุ้น เคยตั้งท้องขณะอายุประมาณ 3 ปี และออกลูกทั้งหมด 6 ตัว ซึ่งขณะนั้นหลังจากเพื่อนบ้านทราบข่าวว่าสุนัขตัวดังกล่าวคลอดลูกจึงได้มาขอเพื่อนำไปเลี้ยงเหลือไว้เพียงตัวเดียวแต่ก็มาถูกรถยนต์ชนเสียชีวิต สุดท้ายแม่สุนัขตัวดังกล่าวได้ไปคาบลูกแมวมาเลี้ยงให้ดูดนมเหมือนลูกตนเอง สร้างความแปลกใจแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก
หลังทราบผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพิสูจน์ ไปถึงพบนายเสกสรรค์ บุญมา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และป้าอนงค์ บุญมา อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 10 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี อาชีพตัดเย็บเสื้อผ้า และเป็นเจ้าของแม่สุนัขตัวดังกล่าว
จากนั้นป้าอนงค์ได้นำไปดูแม่สุนัขที่กำลังนอนอยู่ใต้โต๊ะซึ่งเป็นที่นั่งม้าหินอ่อนตั้งอยู่บริเวณหน้าบ้าน โดยมีลูกแมวเพศเมียอายุประมาณ 7 วันกำลังดูดนมของแม่สุนัขอยู่ ซึ่งขณะนั้นได้มีสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์จำนวน 2 ตัวเดินเข้ามาใกล้ แม่สุนัขจึงได้คาบเอาลูกแมวที่กำลังดูดนมอยู่เดินหลบหนีไปซ่อนตัวใต้รถยนต์เก๋งที่จอดอยู่หน้าบ้านเพื่อความปลอดภัยของลูกแมว ซึ่งพฤติกรรมของแม่สุนัขที่มีความรักและผูกพันต่อลูกแมวตัวดังกล่าวสร้างความแปลกใจแก่ผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
ป้าอนงค์ บุญมา เจ้าของแม่สุนัข เปิดเผยว่า ตนเลี้ยงแม่สุนัขตัวดังกล่าวมาประมาณ 12 ปี ซึ่งขณะที่มันอายุได้ 3 ปีเคยออกลูกมา 6 ตัว หลังจากนั้นก็มีเพื่อนบ้านมาขอลูกของมันไปเลี้ยงซึ่งตนก็ให้ไป โดยเก็บเอาไว้เลี้ยงเพียงตัวเดียว แต่ขณะที่ลูกสุนัขอายุได้ประมาณ 3 เดือนมันได้วิ่งออกไปบนถนนและถูกรถยนต์ที่วิ่งผ่านมาชนและเหยียบจนตาย ซึ่งหลังจากที่ลูกของมันตายไป ตนสังเกตเห็นว่ามันมีอาการซึมเศร้าและรูปร่างของมันก็ซูบผอมลง และมันไม่ยอมกินอะไรอีกเลย ตนจึงได้นำมันไปหาหมอเพื่อทำหมันเพราะหวังว่ามันจะกินอาหารได้และอ้วนขึ้น อีกทั้งไม่อยากให้มันมีลูกอีกเพราะสงสารมันที่ผอมมาก
เวลาผ่านไปประมาณ 4 ปี ขณะที่ตนกำลังทำงานอยู่ภายในบ้านซึ่งเป็นเวลาเช้า พบว่ามันไปคาบลูกแมวมาและปล่อยวางไว้ที่หน้าบ้าน เมื่อตนเห็นจึงได้รีบวิ่งมาดูด้วยความตกใจกลัวว่ามันจะทำร้ายลูกแมว ตนจึงคว้าลูกแมวมาอุ้มเอาไว้ และขณะที่กำลังอุ้มแมวอยู่ตนสังเกตเห็นพฤติกรรมสุนัขของตนเหมือนกับกำลังเรียกและมองหาอะไรอยู่ และมีท่าทางคล้ายจะตามหาตัวลูกแมว ด้วยความสงสัยจึงได้ลองปล่อยลูกแมวลง
ปรากฏว่า เมื่อมันเห็นลูกแมวก็ได้วิ่งเข้ามาและคาบเอาไปไว้ที่หน้าบ้านดังเดิม ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นที่หลับนอนของมันอีกด้วย จากนั้นสุนัขได้นอนลงกับพื้นโดยมันใช้ขาของมันหนีบลูกแมวเอาไว้ตรงบริเวณท้องของมัน ไม่ยอมให้ลูกแมวตัวดังกล่าวเดินหนีไปไหน ไม่นานนักลูกแมวคงเกิดอาการหิวจึงได้ดูดนมของแม่สุนัขและนอนหลับไปในที่สุด เมื่อตนเห็นพฤติกรรมดังกล่าวทำให้รู้สึกแปลกใจและตื่นเต้นเป็นอย่างมาก จึงได้ตะโกนเรียกให้สามีและหลานชายที่อยู่ในบ้าน รวมทั้งเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงให้มาดูพฤติกรรมของแม่สุนัขและลูกแมว ซึ่งเมื่อทุกคนเห็นต่างก็แปลกใจและตื่นเต้นเป็นอย่างมากเช่นกัน และที่ผ่านมาขณะที่ตนนำข้าวไปให้มันกินแม่สุนัขก็จะให้ลูกแมวกินจนอิ่มก่อน จากนั้นมันจึงกินอาหารที่เหลือ และเป็นเช่นนี้ตลอดมา
ดังนั้น ตนจึงตัดสินใจปล่อยให้มันอยู่ด้วยกันจนลูกแมวเติบโตและในที่สุดแมวตัวดังกล่าวได้ตั้งท้องและคลอดลูกออกมาเมื่อประมาณ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา และมันก็หายตัวไปโดยไม่เอาลูกของมันไปด้วย แต่อย่างไรก็ตาม แม่สุนัขก็ยังคงเลี้ยงลูกแมวเหมือนเป็นลูกของมันเองและให้มันกินนมทุกครั้งที่มันหิว และหากลูกแมวจะเดินออกห่างมันก็จะใช้ขาหนีบตัวแมวเอาไว้ ไม่ยอมให้ไปไหนเช่นเดียวกับที่มันเลี้ยงแม่ของลูกแมวในอดีต โดยเพื่อนบ้านทุกคนต่างคิดว่าแม่สุนัขเข้าใจว่าลูกแมวเป็นลูกของมันจริงๆ