แก๊งแดงแก้คุณไสย “พ่อแม้ว” ที่ “ช่องจอม” ก่อนแห่ผ่านแดนเย้ย กม.เข้า “เขมร”

สุรินทร์- “แก๊งแดง” ทำพิธีแก้คุณไสยให้ “ทักษิณ” ก่อนแห่ผ่านด่าน “ช่องจอม” อ.กาบเชิง เข้าเขมรไปรดน้ำดำหัว “พ่อแม้ว” ที่ จ.เสียมราฐ ขณะเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายประจำด่านได้รับคำสั่งให้อำนวยความสะดวกเต็มที่ ทำให้การตรวจตราเข้า-ออกไร้ประสิทธิภาพ ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ขณะรองผู้ว่าฯ สุรินทร์ควงเมียเดินทางร่วมขบวนแรลลีทาสแดงไปเชลียร์ “นช.แม้ว” ด้วย ไม่สนภารกิจสำคัญต้องดูแลประชาชนช่วงสงกรานต์ ด้านชาวกัมพูชาน้อยใจรัฐบาลเวอร์เอาใจแก๊งแดงไม่เห็นหัวประชาชน ร้องหาปฏิวัติล้มระบอบเผด็จการ “ฮุนเซน”


วันนี้ (14 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ได้มีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง จากหลายจังหวัดทั่วประเทศกว่า 5,000 คน เดินทางด้วยรถยนต์ กระบะ รถเก๋ง รถบัสปรับอากาศ และรถบรรทุกหกล้อ ติดธงแดงมายังบริเวณด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม ขอผ่านแดนเข้าไปยังบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองโอร์เสม็ด อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย กัมพูชา เพื่อร่วมขบวนแรลลีแดงเดินทางไปรดน้ำดำหัวและอวยพรปีใหม่ไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษชายหนีคดีอาญาแผ่นดินอยู่ในต่างแดนที่ จ.เสียมราฐ กัมพูชา ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนได้รับแจกหน้ากากรูปเหมือน พ.ต.ท.ทักษิณ ในการร่วมเดินทางครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ เมื่อขบวนรถกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางเข้าไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองโอร์เสม็ด ฝั่งประเทศกัมพูชา เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองโอร์เสม็ดได้อำนวยความสะดวกจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนั่งรถปิกอัพวิ่งนำหน้า และประกบหลังขบวน นอกจากนั้นยังมีกองคาราวานรักษาความปลอดภัย ที่สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จัดส่งมาเป็นพิเศษ ได้เข้าอำนวยความสะดวกรักษาความปลอดภัยให้กลุ่ม นปช.ที่เดินทางผ่านด่านถาวรช่องจอมเข้าไปยังกัมพูชา มุ่งหน้าไปตามถนนหมายเลข 68 สู่ จ.เสียมราฐ ตลอดระยะทาง 170 กิโลเมตร (กม.) ด้วย

คาราวานรถเก๋งที่สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จัดส่งมารักษาความปลอดภัยให้กลุ่มคนเสื้อแดงได้เข้ามาพักและรอการนำขบวนอยู่ที่บ่อนกาสิโนโอร์เสม็ดรีสอร์ต ของ นายพัด สุภาพา ที่ปรึกษาสมเด็จฯ ฮุนเซน และรถได้วิ่งออกจากโอร์เสม็ดรีสอร์ตเข้าปิดท้ายขบวนแรลลีของกลุ่ม นปช.ที่เดินทางเข้าไปยังโอร์เสม็ด มุ่งหน้าสู่ จ.เสียมราฐ และตลอดเส้นทางจะมีหน่วยรักษาความปลอดภัยยืนสองข้างทางคอยรักษาความปลอดภัยให้คนเสื้อแดง จนถึงปลายทาง จ. เสียมราฐ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ช่วงเช้าวันนี้ (14 เม.ย.) ก่อนที่คนเสื้อแดงจะออกเดินทางข้ามแดนผ่านด่านถาวรช่องจอม เข้าไปยังประเทศกัมพูชา ได้มีการประกอบพิธีถอนคุณไสยแก้กรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยนำช้างจำนวน 3 เชือก และมีคนนั่งบนหลังช้างสวมหน้ากาก พ.ต.ท.ทักษิณ ทำทีเดินทางข้ามแดนมาจากฝั่งประเทศกัมพูชาเข้ามายังประเทศไทย เสมือนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้นั่งหลังช้างกลับเข้าประเทศไทยแผ่นดินเกิดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีหมอพราหมณ์ และพระสงฆ์ 1 รูป เป็นผู้ทำพิธีถอนคุณไสยแก้กรรม พร้อมพรมน้ำมนต์ให้แก่กลุ่มคนเสื้อแดงที่ร่วมเดินทางไปรดน้ำดำหัว พ.ต.ท.ทักษิณในครั้งนี้ด้วย

นอกจากนี้ พบว่า นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ พร้อมภรรยา ได้ร่วมเดินทางไปกับคณะคนเสื้อแดงในวันนี้ด้วย แม้จะติดภารกิจสำคัญต้องคอยเฝ้าระวังดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ก็ตาม โดยได้เซ็นชื่อที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองระบุการเดินทางไปจนถึงวันที่ 15 เมษายน 2555

ขณะที่เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรช่องจอม เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่สรรพสามิต รวมถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขนั้น มีรายงานว่าต่างได้รับคำสั่งจากผู้ใหญ่ในรัฐบาลสั่งการมายังหน่วยในพื้นที่ให้อำนวยความสะดวกแก่คนเสื้อแดงอย่างเต็มที่ ไม่เว้นแม้กระทั่งการทำผิดกฎหมายผ่านแดน

ทั้งการให้เปิดประตูด่านชายแดนก่อนเวลา และเปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ซึ่งปกติ กำหนดให้เปิดประตูในเวลา 07.00 น.และปิดประตูด่านในเวลา 20.00 น.ของทุกวัน ไม่มีการตรวจสอบผู้เดินทางผ่านแดนที่อยู่บนรถอย่างครบถ้วนว่ามีเอกสารผ่านแดนถูกต้องหรือไม่ การนับจำนวนคนก็ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงว่ามีคนในรถกี่คน และไม่มีการตรวจตราอย่างเข้มงวดว่าบนรถบรรทุกอะไรไปบ้าง มีการนำสิ่งผิดกฎหมายนำเข้า-ออก นอกประเทศหรือไม่อย่างไร ซึ่งสร้างความรู้สึกระอาใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามกรอบกฎหมายเป็นอย่างมาก แต่ต้องมาทำผิดกฎหมายเพียงเพราะคำสั่งด้วยวาจาจากผู้บังคับบัญชา

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ทางด้านพ่อค้า แม่ค้า ประชาชนชาวกัมพูชาที่เดินทางผ่านแดนเข้ามาซื้อสินค้ายังตลาดชายแดนช่องจอมเพื่อนำไปขายในฝั่ง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชาเป็นประจำทุกวัน ถึงกับบ่นด้วยความน้อยใจ กรณีเจ้าหน้าที่กัมพูชาที่ด่านโอร์เสม็ดกีดกันผลักไสไล่ส่งให้ออกห่างขบวนรถของคนเสื้อแดงทั้งที่เป็นแผ่นดินของประเทศตัวเอง แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่คนกัมพูชาด้วยกันขับไสไล่ส่งเสมือนเป็นคนแปลกหน้า และที่ผ่านมาไม่เคยเห็นเจ้าหน้าที่กัมพูชาดูแลใส่ใจประชาชนชาวกัมพูชาดีเท่ากับคนเสื้อแดงเช่นนี้มาก่อน มีแต่การถูกรีดไถจากเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าและผู้เดินทางทำมาหากิน ถึงขั้นชาวกัมพูชาหลายคนอยากเรียกร้องให้มีการปฏิวัติยึดอำนาจล้มระบอบเผด็จการฮุนเซนให้เร็วที่สุด