ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจห้วยใหญ่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์พิทักษ์เด็ก เยาวชน สตรีและป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจภูธรภาค 2 จับกุมตัวน้าแท้ๆ ข่มขืนหลานสาวสติไม่สมประกอบนานนับ 10 ปี
พ.ต.ท.ภาคสุวัฒน์ ชมถนอม สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ต.หญิงกิ่งแก้ว เจริญพิทักษ์ประชา สารวัตรช่วยราชการ ศูนย์พิทักษ์เด็ก เยาวชน สตรีและป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมกำลังตำรวจ ได้ร่วมกันจับกุมนายสิทธิชัย หรือน้อย สร้อยมาลี อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาในคดีข่มขืนกระทำชำเรานางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี โดยได้ร่วมชี้ตัวให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการจับกุม
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ มูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า นางสาวเอ ซึ่งมีสติไม่สมประกอบ ได้ถูกนายสิทธิชัย ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าแท้ๆ ข่มขืนกระทำชำเรามาตั้งแต่อายุ 10 ปี โดยในขณะนั้น นางสาวเอ ยังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลห้วยใหญ่ จึงได้ส่งข้อมูลมายังตำรวจศูนย์พิทักษ์เด็ก เยาวชน สตรีและป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจภูธรภาค 2 เพื่อให้สืบสวนหาข้อเท็จจริง พบว่าเรื่องดังกล่าวมีมูลความจริง จึงประสานตำรวจ สถานีตำรวจภูธรห้วยใหญ่ ให้ติดตามจับกุมนายสิทธิชัย ที่บ้านพักในเขตอำเภอบางละมุง
จากการสอบถามนางเก๋ (นามสมมติ) อายุ 36 ปี มารดาของนางสาวเอ ให้การว่า เมื่อประมาณปี 2545 ตนได้นำบุตรสาว ซึ่งขณะนั้นมีอายุ 10 ปี ไปฝากผู้เป็นแม่ให้ช่วยเลี้ยงที่บ้านในตำบลห้วยใหญ่ โดยตนได้แยกไปอยู่กับสามีใหม่ แต่ก็จะเดินทางไปเยี่ยมอยู่บ่อยครั้ง
กระทั่งทราบข่าวว่า มีชาวบ้านร้องเรียนไปยังมูลนิธิปวีณาฯ ตนจึงไปสอบถามบุตรสาว และทราบความจริงว่า ได้ถูกนายสิทธิชัย ข่มขืนกระทำชำเรามาตั้งแต่อายุ 10 ปี ซึ่งในครั้งแรกที่ไม่กล้าบอกเพราะถูกนายสิทธิชัย ข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องไปบอกใคร ไม่เช่นนั้นจะฆ่าให้ตาย ซึ่งตนไม่คิดเลยว่าน้องชายแท้ๆ จะกล้าลงมือข่มขืนหลานสาวตัวเอง
อย่างไรก็ตาม นายสิทธิชัยยังคงให้การภาคเสธว่า เมื่อปลายปี 2554 ได้กระทำชำเราหลานสาวของตัวเองจริง แต่ไม่ได้เป็นการบังคับขืนใจ และก็ทำเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ไม่ได้ข่มขืนมาราธอนมาตั้งแต่อายุ 10 ปีแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงพาไปตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะซึ่งก็พบว่ามีสีม่วง ภายหลังจึงได้แจ้งข้อหาเสพยาเสพติด และข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.ท.ภาคสุวัฒน์ ชมถนอม สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ต.หญิงกิ่งแก้ว เจริญพิทักษ์ประชา สารวัตรช่วยราชการ ศูนย์พิทักษ์เด็ก เยาวชน สตรีและป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมกำลังตำรวจ ได้ร่วมกันจับกุมนายสิทธิชัย หรือน้อย สร้อยมาลี อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาในคดีข่มขืนกระทำชำเรานางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี โดยได้ร่วมชี้ตัวให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการจับกุม
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ มูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า นางสาวเอ ซึ่งมีสติไม่สมประกอบ ได้ถูกนายสิทธิชัย ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าแท้ๆ ข่มขืนกระทำชำเรามาตั้งแต่อายุ 10 ปี โดยในขณะนั้น นางสาวเอ ยังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลห้วยใหญ่ จึงได้ส่งข้อมูลมายังตำรวจศูนย์พิทักษ์เด็ก เยาวชน สตรีและป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจภูธรภาค 2 เพื่อให้สืบสวนหาข้อเท็จจริง พบว่าเรื่องดังกล่าวมีมูลความจริง จึงประสานตำรวจ สถานีตำรวจภูธรห้วยใหญ่ ให้ติดตามจับกุมนายสิทธิชัย ที่บ้านพักในเขตอำเภอบางละมุง
จากการสอบถามนางเก๋ (นามสมมติ) อายุ 36 ปี มารดาของนางสาวเอ ให้การว่า เมื่อประมาณปี 2545 ตนได้นำบุตรสาว ซึ่งขณะนั้นมีอายุ 10 ปี ไปฝากผู้เป็นแม่ให้ช่วยเลี้ยงที่บ้านในตำบลห้วยใหญ่ โดยตนได้แยกไปอยู่กับสามีใหม่ แต่ก็จะเดินทางไปเยี่ยมอยู่บ่อยครั้ง
กระทั่งทราบข่าวว่า มีชาวบ้านร้องเรียนไปยังมูลนิธิปวีณาฯ ตนจึงไปสอบถามบุตรสาว และทราบความจริงว่า ได้ถูกนายสิทธิชัย ข่มขืนกระทำชำเรามาตั้งแต่อายุ 10 ปี ซึ่งในครั้งแรกที่ไม่กล้าบอกเพราะถูกนายสิทธิชัย ข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องไปบอกใคร ไม่เช่นนั้นจะฆ่าให้ตาย ซึ่งตนไม่คิดเลยว่าน้องชายแท้ๆ จะกล้าลงมือข่มขืนหลานสาวตัวเอง
อย่างไรก็ตาม นายสิทธิชัยยังคงให้การภาคเสธว่า เมื่อปลายปี 2554 ได้กระทำชำเราหลานสาวของตัวเองจริง แต่ไม่ได้เป็นการบังคับขืนใจ และก็ทำเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ไม่ได้ข่มขืนมาราธอนมาตั้งแต่อายุ 10 ปีแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงพาไปตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะซึ่งก็พบว่ามีสีม่วง ภายหลังจึงได้แจ้งข้อหาเสพยาเสพติด และข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
