ศูนย์ข่าวศรีราชา-รวบโจ๋ 19 กระชากสร้อยคอนักท่องเที่ยวรัสเซีย สารภาพทำมาหลายครั้งอ้างเพื่อนชวน
วันนี้ (9 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งมีพลเมืองดีช่วยกันจับตัวคนร้ายก่อเหตุกระชากสร้อยคอนักท่องเที่ยวต่างชาติเอาไว้ได้ บริเวณปากซอยเออาร์ ถนนพัทยากลาง หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงนำกำลังไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านช่วยกันควบคุมตัว นายรังสรรค์ มากซุง อายุ 19 ปี ผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้พร้อมของกลางเป็นสร้อยคอทองเค 1 เส้น โดยมี MRS.KOTELNIKONA SVETLANA อายุ 36 ปี สัญชาติรัสเซีย ผู้เสียหายพร้อมกับแฟนหนุ่มชี้ตัวยืนยัน
โดย MRS.KOTELNIKONA SVETLANA ผู้เสียหายให้การว่า ขณะพาแฟนหนุ่มเดินออกมาจากซอยเออาร์มาถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายพร้อมกับเพื่อนเป็นชายอีก 1 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนมาด้านหลัง ก่อนจะกระชากเอาสร้อยคอทองเคจากคอไปทันที จึงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ก่อนจะสามารถจับกุมตัวคนร้ายเอาไว้ได้ 1 คน พร้อมของกลาง ส่วนคนร้ายอีก 1 คน สามารถขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปได้
จากการสอบสวนนายรังสรรค์ ให้การยอมรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันกับ นายรงค์ ไม่ทราบนามสกุล เพื่อนที่หลบหนีไปก่อเหตุจริง นอกจากนี้ นายรังสรรค์ ยังได้ให้การยอมรับสารภาพว่าเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งโดยเพื่อนเป็นคนชักชวน หลังสอบสวน และตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมาย ก่อนจะทำการสอบสวนขยายผลติดตามจับกุมตัวเพื่อนร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (9 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งมีพลเมืองดีช่วยกันจับตัวคนร้ายก่อเหตุกระชากสร้อยคอนักท่องเที่ยวต่างชาติเอาไว้ได้ บริเวณปากซอยเออาร์ ถนนพัทยากลาง หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงนำกำลังไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านช่วยกันควบคุมตัว นายรังสรรค์ มากซุง อายุ 19 ปี ผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้พร้อมของกลางเป็นสร้อยคอทองเค 1 เส้น โดยมี MRS.KOTELNIKONA SVETLANA อายุ 36 ปี สัญชาติรัสเซีย ผู้เสียหายพร้อมกับแฟนหนุ่มชี้ตัวยืนยัน
โดย MRS.KOTELNIKONA SVETLANA ผู้เสียหายให้การว่า ขณะพาแฟนหนุ่มเดินออกมาจากซอยเออาร์มาถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายพร้อมกับเพื่อนเป็นชายอีก 1 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนมาด้านหลัง ก่อนจะกระชากเอาสร้อยคอทองเคจากคอไปทันที จึงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ก่อนจะสามารถจับกุมตัวคนร้ายเอาไว้ได้ 1 คน พร้อมของกลาง ส่วนคนร้ายอีก 1 คน สามารถขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปได้
จากการสอบสวนนายรังสรรค์ ให้การยอมรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันกับ นายรงค์ ไม่ทราบนามสกุล เพื่อนที่หลบหนีไปก่อเหตุจริง นอกจากนี้ นายรังสรรค์ ยังได้ให้การยอมรับสารภาพว่าเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งโดยเพื่อนเป็นคนชักชวน หลังสอบสวน และตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมาย ก่อนจะทำการสอบสวนขยายผลติดตามจับกุมตัวเพื่อนร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป