เขมรแห่ซื้อสินค้า “ช่องสะงำ” เตรียมรับ “วันโจสะนำ” สงกรานต์กัมพูชา

ศรีสะเกษ - ชาวเขมรแห่ซื้อสินค้าตลาดชายแดน “ช่องสะงำ” อ.ภูสิงห์ ศรีสะเกษ เพื่อเตรียมจัดงาน “วันโจสะนำ” หรือ “วันสงกรานต์” ขึ้นปีใหม่เขมรอย่างคึกคัก ขณะทหาร-ตร.ตรวจเข้มป้องการนำเอาสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาภายในประเทศ

วันนี้ (8 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณตลาดไทย จุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งในวันนี้เป็นวันเปิดตลาดนัดชายแดนไทย-กัมพูชา ปรากฏว่าได้มีบรรดาชาวกัมพูชาพากันแห่เข้ามาหาซื้อสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งชาวกัมพูชาจะพากันซื้อสินค้าที่เป็นอาหารจำพวกพืชผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ต่างๆ เพื่อเตรียมเอาไว้ใช้ในการจัดงานวันโจสะนำ ซึ่งเป็นวันสงกรานต์ หรือวันขึ้นปีใหม่ของกัมพูชาในระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2555

ส่งผลให้สินค้าที่พ่อค้าแม่ค้าชาวไทยนำเอามาขายในบริเวณนี้ขายดีเป็นอย่างมาก และสินค้าต่างๆ ขายได้หมดในเวลาอันรวดเร็ว โดยพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาจะนำเอาสินค้าบรรทุกบนรถเข็นกลับเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา ขณะที่เจ้าหน้าที่ไทย ทั้งทหาร ตำรวจ และส่วนราชการด้านความมั่นคงได้ตรวจเข้ม เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำเอาสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาภายในประเทศไทย

นายบุล เจีย อายุ 45 ปี พ่อค้าชาวเมืองอันลองเวง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ที่นำคณะเข้ามาหาซื้อสินค้าในเขตแดนไทย กล่าวว่า วันขึ้นปีใหม่ของชาวกัมพูชาจะตรงกับวันสงกรานต์ของไทย โดยจะมีเทศกาลวันปีใหม่กัมพูชาในระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2555 ซึ่งชาวกัมพูชาจะมีการสรงน้ำพระ และเล่นสงกรานต์สาดน้ำเหมือนกับชาวไทย พวกตนจึงพากันมาหาซื้อสินค้าเพื่อเตรียมนำเอาไปขายให้แก่ชาวกัมพูชา และเพื่อใช้ในการจัดงานวันสงกรานต์วันขึ้นปีใหม่ของกัมพูชา

นอกจากนี้ การที่พวกตนอยู่ติดกับชายแดนไทย-กัมพูชาด้านช่องสะงำทำให้สามารถซื้อสินค้าต่างๆ ได้สดใหม่ ไม่เหมือนกับการซื้อสินค้าที่นำเอามาจากประเทศเวียดนามที่ต้องใช้เวลาหลายวันกว่าที่สินค้าจะมาถึงเมืองอันลองเวง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา อีกทั้งสินค้าจากประเทศไทยมีราคาถูกกว่าสินค้าจากประเทศเวียดนามด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะนี้บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ มีความคึกคักมาก นับตั้งแต่รัฐบาลไทย-กัมพูชามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวกัมพูชา รวมทั้งนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกพากันผ่านเข้า-ออกบริเวณนี้จำนวนมาก เพื่อเข้าไปท่องเที่ยวในเขตประเทศกัมพูชา และเข้ามาท่องเที่ยวในเขตแดนไทย อีกทั้งบริเวณช่องสะงำแห่งนี้มีการเปิดบ่อนกาสิโนขึ้นมา ทำให้มีบรรดานักเสี่ยงโชคเดินทางเข้ามามากขึ้น