บุรีรัมย์ - พายุฝนพัดกระหน่ำ 3 หมู่บ้าน จ.บุรีรัมย์ บ้านเรือนราษฎรพังเสียหายกว่า 180 หลังคาเรือน หลายครัวเรือนต้องไร้ที่อยู่อาศัย ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์-เหล่ากาชาดจังหวัด และนายอำเภอรุดตรวจสอบมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัย ส่วนมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ ขณะชาวบ้านเร่งซ่อมแซมบ้านที่ถูกพายุพัดพังเสียหาย หลายครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้
วันนี้ (6 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายคณิต เอี่ยมระหงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นางกิ่งกาญจน์ เอี่ยมระหงษ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ และนายนิวัฒน์ เรืองเดช นายอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่สำรวจสภาพบ้านเรือนราษฎร ที่ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หลังได้รับรายงานว่ามีพายุฝนพัดกระหน่ำ
จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่า มีบ้านเรือนราษฎร 3 หมู่บ้าน มีหมู่ 1 บ้านเสม็ด หมู่ 2 บ้านโคกเพชร และหมู่ 8 บ้านหนองข่า ได้ถูกพายุพัดพังเสียหายกว่า 180 หลังคาเรือน ในจำนวนนี้มีบ้านที่ถูกพายุพัดได้รับความเสียหายทั้งหลังจำนวน 5 หลังคาเรือน ทำให้ชาวบ้านต้องไร้ที่อยู่อาศัย จึงต้องไปอาศัยบ้านญาติและเพื่อนบ้านเป็นที่หลับนอนชั่วคราว
นอกจากนี้ พายุยังได้พัดต้นไม้หักโค่นล้มหลายต้น ส่วนมูลค่าความเสียหายกำลังอยู่ระหว่างการสำรวจ พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ และนายอำเภอ ยังได้นำถุงยังชีพ ประกอบด้วย ข้าวสารอาหารแห้ง ฯลฯ ไปช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านที่ประสบวาตภัยดังกล่าวด้วย
นายคณิต เอี่ยมระหงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือนั้นได้กำชับให้ทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เร่งสำรวจความเสียหายจริงอีกครั้ง แล้วรายงานไปยังทางอำเภอและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฯ เพื่อที่จะได้เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือ
ในเบื้องต้นจะใช้เงินทดรองราชการจ่ายชดเชยช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามหลักเกณฑ์ของทางราชการ ซึ่งหากเสียหายทั้งหลังจะได้รับเงินชดเชยช่วยเหลือรายละไม่เกิน 30,000 บาท หากเสียหายบางส่วนจะได้รับเงินชดเชยรายละไม่เกิน 20,000 บาท หรือตามความเสียหายจริงนอกจากนั้นยังจะได้ระดมช่างเข้าไปช่วยซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายด้วย
ด้านนางกิ่งกาญจน์ เอี่ยมระหงษ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า สำหรับทางเหล่ากาชาดฯ นอกจากจะมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้วยังจะได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ประสบภัยรายละ 2,000-3,000 บาทด้วย ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่าในจำนวนผู้ประสบวาตภัยยังมีบ้านเรือนของผู้พิการ และคนชราด้วย ซึ่งในกรณีดังกล่าวจะได้ประสานไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมในอีกทางหนึ่งด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ชาวบ้านบ้านโคกเพชร ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 1 ใน 3 หมู่บ้านที่ถูกพายุฝนพัดกระหน่ำบ้านเรือนพังเสียหายกว่า 180 หลังคาเรือน ได้ช่วยกันเก็บซากปรักหักพัง และซ่อมแซมบ้านที่ถูกพายุพัดพังเสียหายกันเองตามอัตภาพ เพื่อเป็นที่อาศัยหลับนอนหลังต้องไปอาศัยบ้านญาติและเพื่อนบ้านอยู่ชั่วคราว ทั้งเกรงว่าฝนจะตกลงมาซ้ำอีกเพราะช่วงนี้ยังไม่มั่นใจในสภาพอากาศที่แปรปรวน ขณะที่ชาวบ้านกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ยังรอคอยความช่วยเหลือจากทางภาครัฐ เนื่องจากไม่มีงบประมาณที่จะนำมาซ่อมแซมบ้านที่พังเสียหาย
ทั้งนี้ ยังมีชาวบ้านอีกหลายครัวเรือนต้องประสบปัญหาเดือดร้อนไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากพายุได้พัดต้นไม้หักโค่นทับสายไฟฟ้าขาด จึงร้องขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือเพราะเกรงว่าจะล่าช้าเนื่องจากช่วงนี้มีวันหยุดยาวติดต่อกันถึง 4 วัน
นายบุญเกิด สุขไตรรัตน์ อายุ 46 ปี เจ้าของบ้านที่หาเงินมาก่อสร้างทั้งชีวิต ได้ถูกพายุพัดพังเสียหายทั้งหลัง กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาต้องพาครอบครัวไปนอนที่บ้านญาติ เพราะบ้านที่พังเสียหายยังไม่รู้จะซ่อมแซมเสร็จในวันไหน ประกอบกับไม่มีเงินเก็บสำรองในครอบครัวที่จะนำมาซ่อมแซมบ้าน และไม่ทราบว่าหน่วยงานภาครัฐจะช่วยเยียวยาได้มากน้อยแค่ไหน และขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ จึงขอให้ทางภาครัฐเร่งเข้ามาตรวจสอบช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านอย่างเร่งด่วนด้วย